วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จริงหรือไม่ที่สํญญาณมือถือและสัญญาณไวฟายเป็นอันตรายต่อสขภาพ

เป็นที่สงสัยกันมานานแล้วว่าสัญญาณมือถือ หรือสัญญาณ Wi-Fi เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่



เราคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องอันตรายจากการใช้โทรศัพท์มือถือ และไวฟายอินเตอร์เน็ต พอดีว่าได้มีโอการชม รายงานพิเศษจากรายการแบไต๋ไฮเทค เห็นว่ามีประโยชน์มาก จึงได้สรุปและคัดลอดมาลงเป็นบทความเพื่อง่ายต่อการอ่าน




คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นมีอยู่หลายประเภทในธรรมชาติ ซึ่งมีตั้งแต่คลืนความถี่ต่ำของเครืองอิเลคทรอนิกส์ต่าง ๆ ไล่ไปจนถึง ultraviolet rays และความถี่สูงสุดเป็น gamma rays ซึ่งช่วงตั้งแต่คลื่นความถึ่ต่ำสุดถึง อัลตร้าไวโอเลส ถือเป็นช่วงที่ปลอดภัย หรือเป็นช่วงที่มีพลังงานต่ำ ซึงยังไม่มีความรุนแรงพอที่จะถืบอิเลคตรอนต่อจากอตอม  แต่ช่วงที่เป็นอันตราย หรือความถี่สูงมากจะสามารถทำให้เกิดการกลายพันธ์ในสี่งมีชีวิตได้ก็คือช่วงคลื่นรังสีX เป็นต้นไป



แต่การใช้งานของโทรศัพท์มือถือ ที่ต้องแนบโทรศัพท์ไว้ใกล้สมองมาก จึงเป็นที่วิตกกังวลของผู้ใช้งานอยู่ องค์การอนามัยโลก World Health Organization จึงได้มีการวิจัยตั้งแต่ปี 1996 ในโครงการ The International EMF Project ซึ่งได้ศึกษาเกียวกับผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์จากการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน ผลการศึกษาซึ่งรายงานออกมา ในปี 2011สามารถสรุปผลเบื้องต้นได้ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือ มีผล หรือเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็ง จากการกลุ่มตัวอย่างเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยเฉลี่ยจะใช้มือถึง 30 นาทีต่อวัน และกลุ่มทีใช้มือถือมากที่สุด มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 40 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว


แต่ยังไงก็ตาม ก็ยังคงต้องมีการศึกษาต่อไป เพื่อยืนยันความถูกต้องของรายงานดังกล่าว



แต่ผลการวิจัยสำหรับสัญญาณไวฟาย wifi เป็นอีกแบบหนึ่ง จากผลการวิจัยร่วมกันระหว่าง กระทรวงสาธารณณสุขของสหราชอนาจักร Department of Health และ องค์การอนามัยโลก WHO ในโครงการ the international EMF project พบว่า ความเข้มของสัญญาณไวฟาย ต่ำกว่าสัญญาณมือถือมาก การนั่งอยู่ในห้องที่มีสัญญาญไวฟายนานถึง 1 ปี จะเทียบเท่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบแนบหูเพียง 20 นาที หรือมีความแรงของคลื่นน้อยกว่าคลื่นจากเครื่องไม่โครเวฟถึง 100,000 เท่า



แต่ก็ีมีผลการการวิจัยหนึ่งว่า สัญญาณไวฟาย มีผลต่อการสร้างอสุจิในเพศชาย โดยเฉพาะการวางโน๊ตบุ๊คไว้ที่ตัก แต่ก็เป็นการทดสอบกับชายเพียง 15 คน

ถึงจะมีการวิจัยมาแล้วกว่า 10 ปีจากองค์การอนามัยโลก ก็คงไม่มีความชัดเจน และยังต้องมีการศึกษากันต่อไป ซึงมีรายงานเบื้องต้นแค่ว่า การใช้โทรศัพท์แบบแนบหู เพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็จ และ การนั่งอยู่ในสัญญาณไวฟายนั้นปลอดภัย แต่ในระยะยาวแล้วยังต้องต่องมีการศึกษาอย่างจริงจังการต่อไปว่าจะมีผลต่อร่างการมนุษย์อย่างไร


ข้อมุลจากhttp://www.beartai.com/webboard/
หรือติดตามได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=0ntLWXTREp4
ช่วงนาทีที่ 30 ถึงนาทีที่ 35