วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล

น้ำท่วมเชียงใหม่ปีนี้ บ้านผมก็หนีไม่พ้นอีกเช่นเคย เพราะอยู่ในโซนหมายเลข 1 ที่น้ำจะต้องท่วมก่อนโซนอื่น ๆ ยังโชคดีที่ อบต.ปรับปรุงถนนหน้าหมู่บ้านให้มีความสูงมากขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นถึงแม้ระดับน้ำจากแม่น้ำปิงจะสูงเกินค่าวิกฤติ คือ 3.70 เมตร น้ำก็ยังไม่ล้นตลิ่งข้ามถนนเข้าไปท่วมหมู่บ้าน แต่ในที่สุดก็ไม่รอด เพราะปีนี้น้ำขึ้นสูงสุดถึง4.94 เมตร สรุปว่าน้ำเริ่มเข้าท่วมถนนภายในหมู่บ้านตั้งแต่ตอนบ่ายวันพุธที่ 28 กันยายน 2554 และหยุดท่วมในเช้าวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554
ถึง น้ำจะท่วมถนนภายในหมู่บ้านสูงถึง 60 ซม. จนไม่สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวเข้า-ออกได้ตามปกติ แต่จากประสบการณ์ที่ต้องผจญกับน้ำท่วมในหมู่บ้านนี้มาหลายครั้ง ทำให้เกิดองค์ความรู้ที่จะป้องกันไม่ให้น้ำจากถนนภายในหมู่บ้าน ไหลเข้าไปท่วมในบริเวณบ้านอย่างได้ผล ขอนำมาบันทึกไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่น ๆ ในวันนี้ครับ

เตรียมการก่อน

ประสบการณ์ จากน้ำท่วมเมื่อครั้งที่แล้ว พบว่าถึงแม้จะกั้นกระสอบทรายไว้ที่ประตูรั้ว แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำเข้าบ้านได้ เพราะ (1) บริเวณสนามหญ้าและลานอิฐบล็อกภายในบริเวณบ้านจะมีน้ำปุดทะลุพื้นดินขึ้น มา ( 2) กระสอบทรายไม่มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอ เมื่อถูกคลื่นที่เกิดจากรถยนต์วิ่งฝ่าเข้ามาในถนนที่น้ำท่วม จะมีแรงดันมหาศาลทำให้กำแพงกระสอบทรายพัง และน้ำไหลเข้าบริเวณบ้านได้ในที่สุด
จากประสบการณ์ดังกล่าวผมได้เตรียมการไว้หลังจากน้ำลดครั้งที่แล้ว ดังนี้
(1) ปรับปรุงพื้นรอบ ๆ บริเวณบ้านใหม่ โดยทำพื้นให้เรียบและเทพื้นด้วยคอนกรีตซีแพ็คลงไปจนเต็มชิดรั้วทุกด้าน
(2) ทำบานเหล็กสำหรับกั้นน้ำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง โดยทำกรอบรางเหล็กสำหรับสวม ติดถาวรไว้ที่ประตูรั้วบ้านทั้งซ้ายและขวา ส่วนบานเหล็กและเสาค้ำยันถอดออกได้ เพื่อให้สามารถใช้ประตูบ้านได้ในยามปกติ
(3) ซื้อเครื่องสูบน้ำชนิดแช่ขนาดเล็กที่เรียกว่าไดรโว่ ราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท เครื่องสูบน้ำชนิดนี้จะขาดตลาดทันทีที่เกิดน้ำท่วม จึงต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า แล้วก็ไม่ลืมสายไฟพร้อมปลั๊กที่จะใช้ต่อพ่วงมาจากตัวบ้านจนถึงประตูรั้ว
(4) ดินน้ำมันจำนวนหนึ่ง ใช้สำหรับอุดในช่องว่างที่ประกอบบานเหล็กกั้นน้ำเข้ากับประตูรั้วบ้าน

น้ำมาแล้ว

เสียง ประกาศเตือนภัยจาก อบต. ตั้งแต่เช้า แจ้งว่าน้ำคงจะเข้าท่วมหมู่บ้านในช่วงบ่าย ขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันทรัพย์สินของตนเอง ผมนำรถยนต์ออกจากบ้านไปจอดไว้ยังที่ปลอดภัยนอกหมู่บ้าน กลับเข้ามาก็เริ่มติดตั้งบานเหล็กเข้ากับประตูรั้วบ้าน ติดตั้งเสาค้ำยัน ใช้ดินน้ำมันอุดตามรอยต่อระหว่างบานกับกรอบรางเหล็ก นำเครื่องสูบน้ำไดรโว่มาวางไว้ใกล้ประตูรั้ว ในตำแหน่งที่คาดว่าน้ำจะซึมเข้ามาและท่วมขังอยู่ ต่อสายไฟพร้อมใช้งาน แล้วรอน้ำที่กำลังเริ่มไหลเข้ามาในหมู่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ
เวลา ประมาณ 16.00 น. น้ำท่วมถนนภายในหมู่บ้านทุกถนนแล้ว มีน้ำซึมผ่านบานเหล็กที่ประตูรั้วเข้ามาในบ้านของผมปริมาณหนึ่ง แต่เมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำก็สามารถควบคุมระดับน้ำไม่ให้สูงจนเกิดความเสีย หายได้ เมื่อน้ำในถนนลดลง ผมไม่ต้องลำบากในการทำความสะอาดบริเวณบ้าน ที่มีดินโคลนตกค้างจากน้ำท่วมขัง เหมือนน้ำท่วมเมื่อครั้งก่อนอีกแล้ว

ภาพบรรยากาศ



ติดตั้งบานเหล็กเข้ากับเสาประตูรั้วบ้าน พร้อมติดตั้งเสาค้ำยัน

เข้า-ออก จากบ้านต้องใช้เก้าอี้บันไดตัวนี้ สังเกตระดับน้ำภายนอกบ้านเริ่มสูงมากแล้ว

ขณะ ที่ถนนด้านนอกระดับน้ำสูงถึง 60 ซม. แต่ภายในบ้านมีน้ำรั่วซึมเข้ามาเพียงเท่านี้ และเมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำ น้ำก็จะแห้งภายใน 5 นาที

ลุยน้ำออกไปถ่ายจากนอกบ้านเข้ามา สภาพประตูกั้นน้ำจะมีลักษณะนี้

บ้านข้าง ๆ ก็ติดตั้งบานประตูกั้นน้ำเช่นเดียวกัน

อีกภาพหนึ่ง

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มาใช้ผ้าคลุมรถกันน้ำท่วมเพื่อป้องกันรถคุณจากน้ำท่วมกันเถอะ





ตอนนี้พี่น้องคนไทยกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม ตามห้างร้านก็เปิดให้เอารถเข้าไปจอดกันบนที่สูงได้ ถ้า

หากว่าคุณสะดวกอย่างงั้น นั่นก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการป้องกันไม่ให้รถของคุณโดนน้ำท่วมได้ แต่วันนี้

เรามี idea ใหม่ ที่อาจจะป้องกันน้ำจากรถของคุณได้ไม่ยาก จากการใช้ ถุงคลุมกันน้้ำแบบกลับหัวกลับ

หางซึ่งก็น่าจะป้องกันน้ำท่วมได้จริงเหมือนกันครับ

ตอนแรกผมก็ Google หาดูว่า จะมีสินค้าประเภท ถุงพลาสติกคลุมรถ หรือไม่เพราะเคยเห็นในข่าวเมื่อ

ตอนน้ำท่วมครั้งก่อนแต่ปรากฏว่า ก็ยังไม่ได้ทำเป็นสินค้ามาขาย และค้นหาไมเจอใน internet แต่

อย่างใดครับ เพราะงั้นถ้าหากว่าชอบ concept ของถุงกันน้ำท่วมคลุมรถ แบบนี้แล้วล่ะก็ คุณไม่ต้องไป

หาซื้อทีไหนไกลกันแล้วล่ะครับ เพราะ แค่ผ้าคลุมรถธรรมดาๆ ก็ป้องกันน้ำท่วมรถยนต์คันงามของคุณได้แล้ว !

มาใช้ผ้าคลุมรถกันน้ำท่วมเพื่อป้องกันรถคุณจากน้ำท่วมกันเถอะ!

เริ่มมาใช้ ผ้าคลุมรถโดยเลือกเอา size XL หรือยิ่งใหญ่ยิ่งดี เพราะจะได้สวมใส่กันได้สะดวก เพราะ

concept ของเราคือ การเอาผ้าคลุมรถแทนที่จะใส่จากด้านบน ก็เอามาใส่จากด้านล่างแทนครับ ตอนที่

คุณเลือกผ้าคลุมรถ ต้องเป็นผ้าหรือเป็นวัสดุอะไรก็ตามที่กันน้ำได้ด้วยเท่านั้น เพราะอาจจะมีผ้าคลุมรถที่

กันน้ำไม่ได้ (อันนี้ไม่แน่ใจว่ามีเหรอป่าวแต่ว่าถ้าหากว่าจะเอา sure ให้ถามคนขายด้วยน่ะครับว่า ผ้า

คลุมรถอันนี้กันน้ำได้แบบ 100% ด้วยหรือไม่)

ผ้าคลุมรถเป็นแบบที่ขอบยางเสียหน่อยก็น่าจะดีเพราะว่า ตอนสุดท้ายแล้ว เมื่อคุณเอาไปคลุมรถเสร็จ มัน

ก็จะเข้ารูปเหมือนกับเป็นการใส่เกงกางให้กับรถสุดรักของคุณยังไงล่ะครับ และทั้งนี้ก็จะเป็นการง่ายต่อ

การคลุมที่กระชับอีกด้วย

เริ่มต้นให้วางผ้าคลุมรถไว้ ณ ตำแหน่งที่คุณอยากจะจอดรถเอาไว้เช่น ที่จอดรถบ้านคุณเองเป็นต้น แล้วก็

ให้คนจับมุมเอาไว้ทั้งสองฝั่ง ถ้าหากว่าจะให้ง่ายที่สุดผมแนะนำว่า ควรจะมีคนจับมุมทั้งสี่ฝั่งไว้เลยจะทำใ

ห้การถอดจอดรถเพื่อเข้าผ้าคลุมรถทำได้ง่ายมากๆ หลังจากนั้นก็ให้คนขับถอยรถช้าๆ และเปิดกระจกรถ

เอาไว้เผื่อว่าจะตะโกนหากันตอนที่ คนจับผ้าโดนรถเหยียบก็จะได้บอกคนขับรถได้ครับ

การถอยรถต้องค่อยๆถอย โดยผ่านมุมเข้าผ้าคลุมช้าๆเป็นแนวเดียวกับผ้าคลุมรถ และ ผ้าคลุมควรจะต้อง

ขึงตึงเอาไว้ เพราะ เราไม่อยากจะให้รถเหยียบผ้าคลุมเอาไว้ เดี๋ยวมันจะยกขอบผ้าคลุมไม่ขึ้นครับ

เมื่อถอยรถได้ตำแหน่งอยู่กลางผ้าคลุมแล้วก็ให้คุณเอาขอบของผ้าคลุมคลุมเอาไว้รอบคัน ทั่วทั้งคันครับ

และ สำหรับการป้องกันที่จะทำได้จริง คุณจะต้องติด tape กาวแบบที่เมื่อมีน้ำชะจะต้องไม่หลุดลอกออกม

าด้วยครับ แนะนำว่าให้แปะก็แปะทั่วทั้งคันเพื่อความมั่นใจได้ว่า น้ำจะไม่ซัดหรือดึงผ้า หรือไปกร่อนเนื้อ

กาวเพื่อให้ผ้าคลุมหลุดลอกออกมาได้ง่ายๆ

ผมว่าวิธีการนี้ คือ การใช้ผ้าคลุมรถกันน้ำท่วม โดยเอามาคลุมแบบกลับหัวนั้น น่าจะเป็นทางเลือกที่ทำได้

ง่าย ด้วยอุปกรณ์ที่หาซื้อได้จากห้างร้านค้าทั่วไปครับ


ที่มา:Rackmanagerpro.com

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

7 วิธี ขับประหยัดกับเกียร์ ออโต้

ช่วงนี้แม้ราคาน้ำมันอาจจะลงไปแล้วหลังนโยบายรัฐบาลตัดสินลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันส่งผลให้ราคาทรุดฮวบไปในทันใด แต่ถึงจะเริ่มวางใจได้แต่นโยบายนี้ก็เปิดมาแล้วว่าเป็นเพียงแค่ชั่วคราว และการประหยัดที่แท้จริงยังอยู่กับเราๆท่านๆเหมือนเดิม

หลายครั้งที่เราออกมาพูดเรื่องการประหยัดน้ำมันปาวๆ ทำโน่นนี่นั่น แต่ครั้งนี้เราจะต่างออกไปด้วยการพูดถึงเทคนิคการขับเสียส่วนใหญ่ ที่คราวนี้เราขอตามกระแสกับ 7 เทคนิคที่คุณต้องรู้เอาไว้ ถ้าคุณกำลังใช้รถเกียร์อัตโนมัติ

1.รู้จักรถยิ่งขับยิ่งประหยัด เราหลายคนรู้จักรถดีขับมันทุกวันแต่ไม่คุ้นเคยกับนิสัยของมันเรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่น่าแปลก เพราะการขับขี่นั้นจำเป็นต้องรู้จักรถให้ดี สิ่งหนึ่งที่ต้องจดจำคือช่วงที่แรงบิดสูงสุดถูกเรียกออกมา ซึ่งจะมีประโยชน์มากยามเร่งแซง

2.Walking Speed หลายคนที่ขับรถนั้นไม่ค่อยคุ้นกับคำนี้เท่าไรนักแต่ walking Speed นั้นหมายถึงการที่รถยนต์สามารถเคลื่อนได้ด้วยตัวเองโดยที่เราไม่ต้องแตะคันเร่ง ตามปกติสำหรับเกียร์ออโต้แล้ว Walking speed คือสิ่งที่เราทำกันอยู่ประจำยามที่เราไม่ได้เดินคันเร่ง ซึ่งมีประโยชน์ตอนที่กาจราจรติดขัดหรือตอนเข้าที่จอดรถ เพราะยิ่งเร่งน้อยก็ยิ่งประหยัด

3 เกียร์ L ขึ้นทางชันรับรองว่าประหยัดกว่า ในการขึ้นทางชันนั้นเราหลายคนมักละเลยในการเปลี่ยนโหมดเกียร์มาใช้เกียร์ L ด้วยความสะดวกเข้าว่า ความจริงแล้วถามว่าผิดหรือคำตอบคือไม่ แต่มันไม่เหมาะสม เพราะเกียร์ D นั้นจะทำการเปลี่ยนเกียร์ แต่ในการขึ้นทางชันที่แรงต้านทานจากเนินสูง โดยเฉพาะการขึ้นที่จอดรถ การใช้เกียร์ L โดยใช้กำลังแรงบิดเครื่องส่งขึ้นนั้นจะทำให้รถไม่ต้องออกแรงสู้กับเนินมากผลคือประหยัดกว่า ชัวร์!

4.คิกดาวน์อย่าทำบ่อยถ้าไม่จำเป็น การคิกดาวน์ในเกียร์อัตโนมัตินั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสร้างความสะดวกสบายในการเร่งแซง แต่มันก็ต้องแลกมาดัวยอัตรากินน้ำมัน ซึ่งแม้ระบบเกียร์ปัจจุบันจะมีการพัฒนาให้ตอบสนองได้ดีส่งกำลังได้มากยิ่งขึ้น แต่การคิกดาวน์ก็ยังเปรียบได้ดั่งการกระชากเกียร์อยู่ดี

หลายคนที่ขับเกียร์อัตโนมัติเข้าใจว่าการคิกดาวน์นั้นเป็นหนทางเดียวที่เร่งแซง แต่ความจริงแล้วนอกจากที่ปลายเท้าแล้วยังมีการใช้ระบบ Overdrive หรือ O/d ซึ่งทำให้เกียร์เปลี่ยนอย่างนิ่มนวลมากกว่าการคิกดาวน์หรือบางคันเป็นตำแหน่ง 3/D3 ตามแต่ยี่ห้อรถ

5 คันเร่งเดินให้เนียน หลายคนที่ไม่ได้ฝึกขับรถอย่างจริงจังนั้นมักจะไม่ทราบว่าการเดินคันเร่งนั้น เป็นเรื่องสำคัญยิ่งชีพในการพิชิตความประหยัดที่จะใช้น้ำมันทุกหยดให้คุ้มค่า การใช้คันเร่งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากในรถเกียร์ออโต้ เพราะเมื่อเรากดคันเร่งลึกไประบบเกียร์ก็จะคิกดาวน์หรือน้อยไป รถก็วิ่งแบบคลานๆ เราต้องหาความพอดี โดยอาจจะใช้วิธีกดเร่งไปถึงระดับความเร็วที่ต้องการก่อนแล้วผ่อนรักษาความเร็ว ซึ่งก็เป็นวิธีหนึ่งที่ให้การประหยัดน้ำมันที่ดีทีเดียว และที่สำคัญไปกว่านั้นพยายามรักษาความเร็วให้คงที่ตลอดทาง หากรถคุณมีระบบ Cruise Control อย่าลืมที่จะใช้มันในการขับขี่

6.เบรคให้น้อยชะลอบ่อยๆ เราหลายคนที่ขับรถยนต์เกียร์ออโต้ที่ชินกับการเร่งและเบรคนั้น อาจจะไม่ค่อยมีสไตล์การขับขี่ที่ใช้วิธีชะลอความเร็วเหมือนคนที่ขับรถเกียร์รรมดา ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ามาจากความคุ้นเคย แต่เชื่อหรือไม่การชะลอความเร็วโดยไม่เบรคนั้นเป็นหนึ่งในกระบวนการของวิธีประหยัดน้ำมันด้วย

เรื่องนี้ฟังดูไม่น่าเกี่ยวกันแต่มันคือข้อเท็จจริงที่ว่าเมื่อเราเบรคลดลมจากท่อไอดีจะถูกดูดมาที่หม้อลมเพื่อลดการทำงานของเครื่องยนต์ซึ่งจะมีอัตราลดลงมากกว่าการที่เราไม่เหยียบคันเร่งหรือชะลอความเร็ว นี่ยังไม่นับการสูญเสียน้ำมันกับการเร่งเมื่อความเร็วลดลงกว่าที่ขับปติ ซึ่งเท่ากับการซดน้ำมัน 2 เท่าตัว

7.หัดใช้เทคโนโลยีใหม่ ปัจจุบันรถยนต์เกียร์ออโต้หลายรุ่นเริ่มมีการติดตั้งระบบ start/stop function เข้ามาเพื่อหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราว ระบบนี้ช่วยคุณประหยัดได้มาก-มาที่สุดในสภาวะการจราจรที่ติดขัด เพราะเมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงานก็หยุดจ่ายน้ำมัน ผลคือประหยัดแน่นอน ดังนั้นจึงควรเรียนรู้ไว้ โดยปกติแล้วระบบดังกล่าวจะทำงานเมื่อเราเหยียบแป้นเบรคเป็นระยะเวลานานๆ ส่วนวิธีการรีสตาร์ทเครื่องนั้นก็เพียงกดคันเร่งก็สามารถขับขี่ต่อได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายระบบที่สำคัญต้องลองหัดดูครับ

ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆน้อยๆที่ช่วยให้คุณสามารถเซฟเงินในกระเป๋าได้เมื่อขับรถเกียร์ออโต้ ที่แม้ราคาน้ำมันในชั่วโมงนี้อาจจะยังไม่น่าห่วงแต่ฝึกเอาไว้ให้ชินจะมีประโยชน์มากเมื่อยามน้ำมันกลับมาแพง

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ขายที่ดินชลบุรี




ขายที่ดิน
ชื่อโครงการบ้านเนินน้ำ ถ.บายพาสชลบุรี-ระยอง (ไม่แน่ใจชื่อถนน)
ต.มะขามเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ในโครงการมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่าพร้อมใช้
ล้อมรอบด้วยภูเขา และอ่างเก็บน้ำ
เนื้อที่ 80 ตรว. ๆ ละ 8000 บาท ค่าโอนแล้วแต่ตกลง
จากที่ดินไปพัทยาประมาณ 15 นาที สามารถปลูกบ้านได้ตามแบบของตัวเอง
โรส 0869964323

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วงแหวนแห่งไฟ

วงแหวนแห่งไฟคืออะไร
วงแหวนแห่งไฟ (Pacific Ring of Fire) เป็นชื่อเรียกบริเวณในมหาสมุทรแปซิฟิค ที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง มีลักษณะเป็นเส้นเกือกม้า ความยาวประมาณ 40,000 กิโลเมตร

วงแหวนแห่งไฟเป็นผลมาจากการเคลื่อนที่และการชนกันของแผ่นเปลือกโลก วางตัวตัามแนวร่องสมุทรแนวภูเขาไฟ และบริเวณขอบแผ่นเปลือกโลก โดยมีภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ภายในวงแหวนแห่งไฟทั้งหมด 452 ลูก และเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่กว่า 75% ของภูเขาไฟคุกรุ่นทั้งโลก ซึ่งบางครั้งจะเรียกว่า Circum-Pacific Belt หรือ Circum-Pacific Seismc Belt นอกจากภูเขาไฟแล้ว ประมาณ 90% ของแผ่นดันไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลกและกว่า 80 % ของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้นในบริเวณวงแหวนแห่งไฟนี้

ภูเขาไฟที่คนรู้จักเพราะได้ยินชื่ออยู่บ่อย ๆ ที่ตั้งอยู่ในวงแหวนแห่งไฟ เช่น ภูเขาไฟวิลลาต์ริกา ประเทศชิลี ภาเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยเกิดการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ.1980 พ่อเถ้าถ่านออกมากกว่า 1.2 ลูกบาศกิ์กิโลเมตร ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อ ค.ศ.1707 ภูเขาไฟพินาตูโบ ประเทศฟิลิปปินส์ เคยระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อปี ค.ศ.1991 ภูเขาไฟแทมโบรา เคลูด และเมราปี ในประเทศอินโดนีเซีย ภูเขาไฟลูอาเปทู ประเทศนิวซีแลนด์

แนวแผ่นดินไหวในโลก นอกจากวงแหวนแฟงไฟยังมีอีก 2 แห่ง ได้แก่ แนวเทือกเขาอัลไพน์ ซึ่งมีแนวต่อมาจากเกาะชวาสู่เกาะสุมาตราผ่านเทือกเขาหิมาลัย และทะเลเมติเตอร์เรเนียน แนวแผ่นดินไหวแห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น 17% ของทั้งโลกและอีกแห่งคือแนวกลางมหสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น 5-6% ของทั้งโลก

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ผลไม้พืนบ้าน ภาคอีสาน

ผลไม้พืนบ้าน ทางภาคอีสาน แต่บางชนิดทางภาคอื่น ๆ ก็มี แต่ชื่ออาจจะเรียกไม่เหมือนกัน

ตะขบ



บักขามป้อม


บักบก





บักค้อ




บักยางป่า




บักหว่า






บักผีผ่วน





บักเบน




บักเม่า





บักหวดข่า




บักหวายป่า




หมากต่องแร่ง




หมากเม็ก

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

20 วิธีสบายมีความสุขในออฟฟิศ


แต่ละวันในออฟฟิศก็ยุ่งพออยู่แล้ว อย่าทำให้ชีวิตเรายุ่งยากไปด้วยอีกเลย นี่คือวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ที่ทำให้เป็นคนลัลล้าได้ ตั้งแต่ จันทร์ถึงศุกร์ ไม่เจ็บไม่ไข้ และใจเป็นสุข


1. เช็ดโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานอาทิตย์ละ 1 ครั้ง อาการสิวขึ้นเป็นแถบที่ข้างแก้ม นั้นคือ สิวที่เกิดจากโทรศัพท์ที่เราพูดลงไปทุกวัน ทั้งฝุ่น ทั้งน้ำลาย แต่ไม่ต้องห่วง สำลีชุบแอลกอฮอล์ช่วยคุณได้

2. ช้อนส้อม 1 ถ้วยกาแฟ 1 ฟองน้ำล้างจาน 1 ต้องมี ไม่ใช่ว่า รังเกียจ ไม่ได้ทำตัวเป็นคุณหนู แต่มีไว้ใช้เป็นของส่วนตัวสบายใจ สบายตัวที่สุด เพราะคุณจะรู้หรือว่า ใครไม่สบายเป็นอะไรกันบ้าง แล้วคุณรู้มั้ยว่า ฟองน้ำล้างจาน ตรงมุมกาแฟนั้น แม่บ้านเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

3. อย่าเด็ดขาด! อย่าใส่ชุดสีดำทึม เทาในวันที่ซึมเศร้า เบื่อหน่าย ไปทำงาน เพราะจะทำให้คุณรู้สึกแย่ไปกว่าเดิม

4. ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว เชื่อหรือไม่ว่า อากาศในออฟฟิศที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำนั้น แห้งได้พอๆ กับทุ่งนากลางแจ้ง ผิวคุณก็จะขาดความชุ่มชื่นไปได้อย่างไม่รู้ตัว

5. ยิ้มทุกครั้งเวลาที่รับโทรศัพท์ จะช่วยให้เสียงสวยจนปลายสายอยากเห็นหน้า

6. ตั้งกระจกไว้ที่โต๊ะทำงาน ช่วยแก้ฮวงจุ้ยได้บ้าง แต่งงานหลักเอาไว้ให้เราได้ฝึกยิ้มอยู่เสมอ ยิ้มบ่อยๆ จะเครียดน้อยลง ใจจะสบายขึ้น

7. โหลดวอลล์เปเปอร์เป็นรูปขำๆ หรือวิวสวยๆ ไว้ที่หน้าจอ พักสายตาได้ดี

8. วางแฮนด์ครีมกลิ่นหอมๆ ถูกใจที่สุด ไว้ไกล้ๆ มือ หาบ่อยๆ กลิ่นหอมจะช่วยผ่อนคลายได้ แถมมือยังนุ่มตามมา

9. เลือกเพลงแจ๊สเบาๆ หรือเป็นเพลงแบบมิวสิค บ็อกซ์ ใสๆ ฟังได้สบาย หรือจะเป็นเพลงคลาสสิกก็ดี คลื่นสมองเราจะทำงานได้สงบดีขึ้น แล้วจะเลือกแผ่นไหนดี ให้เลือกเพลงที่ฟังได้เพลินๆ ทำงานไปได้เรื่อย โดยที่ไม่รู้สึกว่าเสียสมาธินั่นละ

10. One free Day แค่อาทิตย์ละวัน... วันไหนที่ไม่ต้องมีนัดกับใคร ไม่ต้องไปประชุมกับลูกค้า ยกเว้นนั้นให้ตัวเองได้ แต่งตัวสบายๆ หยุดพยายามสวยกันสักหนึ่งวัน

11. ขยับตัว ยืดหลัง 2 ครั้ง ต่อวัน... เป็นอย่างน้อย

12. วางคริสตัลหรือแท่งแก้ว หินสีไว้ที่โต๊ะทำงาน ศาสตร์ทางฮวงจุ้ยบอกว่า จะช่วยดูดพลังร้ายๆไป ศาสตร์เรื่องหินจะบอกว่า จะช่วยดูดซับพลังความร้อนจากคอมพิวเตอร์ได้

13. มีรองเท้าแตะไว้ที่ใต้โต๊ะ ไว้เปลี่ยนตอนเมื่อยๆจากรองเท้าส้นสูง

14. ซ่อนเก้าอี้ซักผ้าตัวเล็กๆ ไว้ใต้โต๊ะ ไว้พักขา ยืดขาตอนเมื่อยๆ

15. เคลียร์โต๊ะทุกอาทิตย์ เคลียร์เอกสาร ทุก 2 อาทิตย์ เรามักจะใช้เวลา 1 ใน 3 ของวันในการหาของหรือเอกสารที่ต้องการใช้ ถ้าเรามีโต๊ะที่ยุ่งเหยิง หาอะไรไม่เคยเจอ ยิ่งหายิ่งเครียด หงุดหงิด ทำงานไม่ได้ดี หมอดูเห็นก็จะทำนายว่าชีวิตการงานจะยุ่งเหยิง...(แม่นแน่ๆ)

16. ปัดฝุ่นบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ก็ผลิตฝุ่นได้และมากอย่างที่เรานึกไม่ถึงด้วย วันละนิด วันละนิด

17. ลบเมล์ Delete ไฟล์ที่ไม่ใช้ใน Inbox ออกจากคอมพิวเตอร์บ้าง การทำงานจะง่ายขึ้น หาอะไรก็เจอ ความเครียดก็จะลดลง คล่องตัวขึ้น คอมพิวเตอร์ ก็เร็วขึ้นด้วย

18. Emergency Kit เพื่อความไม่ประมาท ควรมี 4 สิ่งนี้ติดลิ้นชักไว้เสมอ

* ผ้าอนามัย แค่สักชิ้นก็พอ เผื่อฉุกเฉิน

* แปรงสีฟัน+ยาสีฟัน+ควรใช้หลังอาหารเที่ยง หรือก่อนไปพบลูกค้า

* โรลออน หรือสเปรย์ระงับกลิ่นกายแบบแห้งเร็ว สำหรับวันไหนที่ร้อน และเหงื่อออกมากกว่าปกติ

* สเปรย์ระงับกลิ่นเท้า ปกติอาจจะไม่มี แต่ถ้าวันนั้นเดินมาก และเจอรองเท้าคู่อับ ก็มีสิททธิ์ได้ออกมาใช้เหมือนกัน


19. ใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีหรือเฮดเซ็ท สำหรับคนที่ต้องคุยโทรศัพท์ทั้งวัน เพราะถ้าคุณเอียงคอ หนีบโทรศัพท์เรื่อยๆ มีโอกาสหมอนรองกระดูกอาจจะเสื่อม
20. รักงาน รักเพื่อน ร่วมงาน ทัศนคติที่ดีกับการทำงานจะช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น เหนื่อยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ปัญหาทุกอย่างจะมีทางออกอยู่เสมอง เมื่อรู้สึกดีๆ กับงานที่ทำ กับคนที่ทำงานด้วยกัน ชีวิตจะเป็นสุข

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

ศาลแพ่งธนบุรี

"ราชการไทย ใกล้ชิดประชาชน" ไม่เคยจะเชือเลย..คำนี้..แต่วันนี้ ศาลแพ่งธนบุรี ทำให้รู้ว่า..ราชการไทย ทำได้
เรื่องของเรื่องคือไม่ได้ไปติดต่อราชการนานมาก ๆ แล้ว วันนี้มีกิจจะต้องไปศาลแพ่งธนบุรี ทำให้รู้สึกดีมาก ๆ กับระบบการบริการประชาชนทีนี่ ทำให้รู้สึกว่าตาสีตาสาอย่างเรา ๆ ไปติดต่อที่ศาลได้โดยไม่สะดวก ได้รับการช่วยเหลือและแนะนำเป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่จอดรถ แล้วหาหน่วยงานที่เราต้องการติดต่อไม่เจอ ก็ไปถาม พนักงานรักษาความปลอดภัย..โอ้โห..อื้งเลย..พี่แก่อะธิบายด้วยน้ำเสียยิ้มแย้มดีมาก ๆ แถมยังเดินนำเราไปจนเกือบถึงแผนกที่เราต้องการ..โห..แค่เริ่มก็ทำให้รักราชการไทยยุกต์ใหม่เลย...จากนั้นก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปติดต่อประชาสัมพันธ์ สอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องทำ ได้รับการช่วยเหลือที่ดีมาก ๆ เราพกไปแค่บัตรประชาชนกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันต้องเขียนคำขอในรูปแบบ..บลา ๆ ๆ เราก็ไม่รู้..ทางพนักงานประชาสัมพันธ์ ขอบัตรของผม และสอบถามรายละเอียดส่วนตัวนิดหน่อยแล้ว...พิมพ์คำขอให้..ผมแค่เซ็นต์อย่างเดียว..โอ้แม่เจ้า..ทำไม่บริการดีอย่างนี้..นี่ซิ..ราชการต้องเป็บอย่างนี้..ซึ่งในใบที่ให้ผมเซ็น..ถ้าให้ผมมาร่างเอง..ขอบอก..ผมคงทำไม่ได้ นี่ขนาดเรียนมาบ้างนะ..มันมีคำแบบ..แบบว่าเฉพาะทางกฎหมาย..ศัพท์แปลก ๆ...แล้วถ้าเป็นชาวบ้านตาสีตาสาไม่ตายเหรอ..ถ้าให้ร่างเอง...แต่นี่..ประทับใจมาก ๆ ช่วยเหลือทุกอย่างเลย..อีกทั้งหลังจากนั้นก็ได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดีในการเดินเอกสารต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่แผนกอืน ๆ ก็แนะนำทุกอย่างเป็นอย่างดี ด้วยความเป็นกันเอง..บอกเลยว่า..งานนี้ไม่มีบูดให้เห็น....อย่ากบอกว่า..ถ้าทำหน่วยงานทำได้อย่างนี้...ประชาชนรักตายเลย....ไหน ๆ ก็ไปถึงโน่นแล้วก็เก็บสาระมาฝากกันเล็กน้อย

การจัดการมรดก
บริการพิเศษศาลแพ่งธนบุรี

บริการให้คำปรึกษาและทำคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
ศาลแพ่งธนบุรี ให้การบริการพิเศษแก่ประชาชนที่ไม่สามารถจ้างทนายความได้ ในคดีขอตั้งผู้จัดการมรดา โดยจัดนิติกรให้คำแนะนำ ปรึกษาจัดทำคำร้องขอจัดการมรดก กรณีไม่มีผู้คัดค้านหรือไม่มีข้อพิพาท เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

เหตุใดจึงต้องมีคำร้องขอตั้งผุ้จัดการมรดก
เมือบุคคลถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกของบุคคลซึ่งได้แก่ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่มีอยู่ก่อนถึงแก่ความตาย รวมทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบต่าง ๆ ตกทอดแก่ทายาท ในกรณีที่ทายาทของบุคคลนั้นไม่สามารถจัดการทรัพย์สินของผู้ตายได้ เช่น ธนาคารหรือหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำนักงานที่ดินไม่อาจเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก

ผู้จัดการมรดกคือใคร
ผู้จัดการมรดก คือ บุคคลซึ่่งศาลมีคำสั่งให้เป็นผุ้จัดการมรดก เพื่อรวบรวมทำบัญชีและแบ่งมรดกให้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก

คุณสมบัติของผู้จัดการมรดก
1.บรรลุนิติภาวะ
2.ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต
3.ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความความสามารถ
4.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

ผู้มีสิทธิยื่นขอจัดการมรดกต้องเป็น
1.ทายาทโดยธรรม หรือผู้รับพินัยกรรม
2.ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก
3.พนักงานอัยการ

ศาลแพ่งธนบุรีให้บริการตั้งผู้จัดการมรดกในกรณีที่ผุ้ตายอยูในเขตอำนาจศาลแพ่งธนบุรี
1.เขตธนบุรี
2.เขตจอมทอง
3.เขตคลองสาน
4.เขตบางขุนเทียน
5.เขตบางบอน
6.เขตทุ่งครุ
7.เขตราษฏร์บูรณะ
8.เขตบางแค
9.เขตภาษีเจริญ

เอกสารที่ใช้ในการจัดการมรดก
1.หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของผู้ร้องกับผู้ตาย เช่น
1.1 กรณี บุตร กับ บิตา/มารดา, บิดา/มารดา กับ บุตร
-ใบสำคัญการสมรส หรือ ใบสำคัญการหย่าของบิดามารดา
-สูติบัตรของผู้ร้อง หรือทะเบียนการรับรองบุตร หรือทะเบียนการับบุตรบุญธรรม
1.2 กรณีคู่สมรส
-ใบสำคัญการสมรสระหว่างผู้ร้องกับผู้ตาย
1.3 กรณีเป็นผู้รับพินัยกรรม หรือผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม
-พินัยกรรม

2.มรณบัตรของผู้ตาย
3.สำเนาทะเบียนบ้านผู้ตาย
4.หลักฐานเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน สมุดเงินฝาก สมุดคู่มือรายการจดทะเบียน รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์
5.บัญชีเครื่อญาติ
6.หนังสือแสดงความยินยอมของทายาท
7.มรณบัตรของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกที่ถึ่งแก่ความตายก่อนผู้ตาย
8.หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชือและชื่อสกุลของผู้ร้องหรือผุ้ตายหรือทายาทผุ้มีสิทธิรับมรดก

ขันตอนการทำคำร้องขอจัดการมรดก
ปรึกษาให้คำแนะนำ-หลักฐานครบ-ทำคำร้อง-ชำระค่าธรรมเนียมศาลและกำหนดวันนัดไต่สวน-ศาลไต่สวนคำร้อง-ค่ารับรอง,ค่าถ่ายเอกสาร

นับแต่ได้ยื่่นคำร้องของเป็นผุ้จัดการมรดก ศาลจะนัดไต่สวนคำร้องภายใน 45 วัน ซึ่งในวันนัดผู้ร้องขอจัดการมรดกต้องมาศาลพร้อมกับพยาน (ถ้ามี) หลังจากไต่สวนเสร็จ ผู้ร้องขอคัดคำสั่ง โดยเจ้าหน้าที่รับรองสำเนาถูกต้อง และผู้ร้องขอจัดการมรดกนำคำสั่งศาลไปดำเนินการตามความประสงค์

ค่าใช้่จ่ายในการจัดการมรดก
1.ค่าใช้จ่ายในวันยื่นคำร้อง
-ค่าธรรมเนียมศาล 200 บาท
-ค่าประกาศหนังสือพิมพ์ 500 บาท
2.ค่าใช้จ่ายในการไต่สวน
-ค่ารับรองสำเนา ฉบับละ 50 บาท

ลำดับในการไต่สวน
1.ความสัมพันธ์ระหว่างผุ้ร้องกับผู้ตาย เช่น ผู้ร้องหรือพยายเกี่ยวข้องกัน อย่างไรกับเจ้ามรดก
2.วันที่ผู้ตายถึ่งแก่ความตาย สาเหตุการตาย และภูมิลำเนาของผู้ตายก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมหรือแต่งตั้งผุูัจัดการมรดกไว้หรือไม่
3.ทรัพย์มรดกของผุ้ตาย
4.เหตุขัดข้องในการจัดการมรดก
5.เรื่องบัญชีเครื่อญาติ
6.ความยินยอมของทายาท

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการจัดการมรดก
ทายาทโดยพินัยกรรม เป็นกรณีที่ผุ้ตายทำพินัยกรรมโดยระบุผู้รับมรดกและอาจระบุบุคคลใดให้เป็นผุ้จัดการมรดกก็ได้
ทายาทโดยธรรม เป็นกรณีที่ผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้หรือทำพินัยกรรมไว้ แต่ไม่มีผลบังคับได้ทายาทโดยธรรม มี 6 ลำดับ ทายาทในลำดับตันมีสิทธิได้รับมรดกก่อนทายาทที่อยู่ลำดับหลัง
1.ผุ้สืบสันดาน (บุตร)
2.บิดา มารดา
3.พี่น้องร่วมบิดา มารดา เดี่ยวกัน
4.พี่น้องร่วมบิดา หรือมารดาเดียวกัน
5.ปู่ ย่า ตา ยาย
6.ลุง ป้า น้า อา
คู่สมรส เป็นทายาทโดยตรง มีสินธิได้รับส่วนแบ่งมรดกเหมือนเป็นทายาทชั้นบุตร และถ้าไม่มีทายาททั้ง 6 ลำดับแล้ว จะมีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมด

ศาลที่ยื่นคำร้อง
ให้เสนอต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแต่ความตาย ในกรณีที่เจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร ให้เสนอต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตศาล

ศาลแพ่งธนบุรี
เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้

ศูนย์ให้บริการข้อมูลศาลแพ่งธนบุรี (ประชาสัมพันธ์) 0-2416-7196,0-2416-7243,0-2415-0040-44 ต่อ 207,343
ผู้อำนวยการ 0-2415-2949
งานการเงิน 0-2416-4090

งานบริการประชาชน (จัดการมรดก) 0-2415-4985
งานไกล่เกลื่่ย 0-2416-4519
งานรับฟ้อง 0-2415-4976
งานหน้าบัลลังก์ 0-2415-2373
งานนำหมาย 0-2415-4986
งานเก็บสำนวนคดีดำ 0-2416-7084
งานเก็บสำนวนคดีแดง 0-2415-0551
งานสารบบ 0-2416-4471
งานศูนย์ถ่ายเอกสาร 0-2415-2399
งานสารบรรณ 0-2415-1050
งานอุทรณ์-ฏีกา 0-2416-7101

ศาลแพ่งธนบุรี
เลขที่ 123 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150

www.coj.go.th/civiltbc


วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของเกลือ

ใครจะเชื่อ"เกลือ"คือยาชั้นเลิศ !!

ใครจะเชื่อ..เกลือคือยาชั้นเลิศ!!
เชื่อมั้ย..ว่าเรามียาดีประจำบ้านกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราคาดไม่ถึง และมองไม่ออกเท่านั้นเอง แหม..พูดมาซะขนาดนี้ หลายคนคงอยากจะรู้กันแล้วใช่มั้ย!!..ในขณะที่บางคนก็อาจจะรู้มาบ้างแล้ว..แต่ไม่เป็นไร เพราะวันนี้ เราตั้งใจจะนำมาเผยแพร่เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยนี้ ให้ผู้อ่านได้นำไปปฎิบัติในยามที่ป่วยไข้เบื้องต้น..

สิ่งวิเศษที่เป็นยาชั้นเลิศอยู่คู่บ้านใกล้ตัวคุณ ก็คือ .. " เกลือ"ชนิดที่เค็มๆ หาได้ตามห้องครัวบ้านเรานี่แหละ สำหรับอาการต่างๆที่ใช้เกลือช่วยบรรเทาได้ มีดังนี้

ไอ เพราะเป็นหวัด แค่เอาน้ำเปล่า 1 ถ้วย มาเหยาะเกลือลงไป 1 ช้อนชา คนเบาๆ จนกว่าเกลือจะละลาย แล้วใช้บ้วนปากกลั้วคอหลายๆ ครั้ง ความเค็มจะเข้าไปละลายเสมหะในลำคอ ทีนี้ก็ไม่ต้องไอให้คนข้างๆ รำคาญแล้ว

มึนหัว สมองไม่แล่น คนทำงานที่เจอแบบนี้อย่ารอช้า รีบรองน้ำอุ่นให้เต็มถัง หยอดเกลือลงไป 2-3 ช้อนชา แล้วเอามาอาบ รับรองว่าสมองจะโล่งคิดงานได้ปรู๊ดปร๊าด เพราะเกลือช่วยกระตุ้นให้เลือดลงไหลเวียนดี มีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง

เร่งให้อาเจียน ถ้าบังเอิญกินสารพิษเข้าไป หรืออึดอัดอาหารไม่ย่อย จนต้องทำให้อาเจียนออกมา ให้ดื่มน้ำเกลือเข้มข้นแก้วใหญ่ๆ ไม่นานจะได้อาเจียนสมใจ

คัดจมูก จะแค่คัดจมูกน้ำมูกไหล หรือลุกลามจนกลายเป็นโรคจมูกอักเสบก็ตาม ให้ใช้น้ำเกลือเจือจางหยอดเข้าไปในรูจมูกทั้งสองข้าง เกลือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคในโพรงจมูก จะได้หยุดซี้ดซ้าดปาดน้ำมูกได้เสียที

คันตามผิวหนัง ทาบริเวณที่คันด้วยน้ำเกลือ เชื้อราบริเวณนั้นจะสิ้นฤทธิ์

โรคตาแดง โรคนี้มีเชื้อโรคเป็นตัวการอยู่เบื้องหลัง แต่สามารถปฐมพยายาบาลตัวเอง ก่อนถึงมือหมอได้ง่ายๆ ด้วยการเอาผ้าขนหนูสะอาดๆ (ถ้าต้มฆ่าเชื้อโรคก่อนได้ยิ่งดี) จุ่มน้ำเกลือแล้วเอามาเช็ดตา อาจจะแสบบ้างแต่นั่นล่ะคือยาดี หลังจากที่เกลือเข้าไปฆ่าเชื้อโรคในตาแล้ว ก็ล้างตาหลายๆ ครั้งด้วยน้ำสะอาด อาการบวมแดงมีขี้ตาของคุณจะทุเลาลง

แผลยุงกัด ถ้าใครถูกเจ้ายุงตัวร้ายมาขอบริจาคเลือดไป แถมยังทิ้งรอยแผลไว้เป็นที่ระลึก อย่ามัวแต่เกาให้เสียลุคส์ รีบๆ ใช้น้ำเกลือทาที่รอยแผล ไม่นานความคันจะหายไป และรอยบวมก็จะยุบเร็วด้วย

เคล็ดลับดีๆแบบนี้..รู้แล้วต้องบอกต่อ เป็นวิธีการง่าย