วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สถานศึกษาช่วยลดโลกร้อน

ก่อนอื่น ต้องให้นักเรียน นักศึกษาทุกคนรับรู้ และตระหนักถึงภาวะโลกร้อน เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ทุกคนต้องพร้อมใจร่วมมือแน่

ช่วยกันเพิ่มออกซิเจนด้วยการปลูกต้นไม้กันเถอะ เพราะต้นไม้ใหญ่แค่ต้นเดียว ช่วยให้อากาศสดชื่นพอ ๆ กันแอร์ขนาด 12,000 บีทียู 1 เครื่องบวกกับเครื่องฟอกอากาศเลยที่เดียว

จัดกิจกรรมทัศนศึกษาให้นักเรียน นักศึกษาได้มีส่วนร่วมรณรงค์กิจกรรมรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชน

ลดจำนวนขยะในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย อาจเริ่มง่าย ๆ ด้วยการใช้แก้วน้ำส่วนตัว ลายสวยเก๋ไปซื้อน้ำแทนแก้วพลาสติก เท่ากับเด็ก 1 คน ลดแก้วพลาสติดได้อย่างน้อย 2 ใบต่อวัน แล้วทั้งโรงเรียนล่ะ

จัดการแยกขยะอย่างจริงจัง มีทั้งประเภทรีไซเคิล ขยะเปียก ขยะทั่วไป และขยะสารพิษ

Reuse ทั้งชุดนักเรียน และตำราเรียนต่าง ๆ จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ที่ทำงาน ลดโลกร้อน

คนที่ทำงานมักเปิดคอมพิวเตอร์เป็นอย่างแรก เมื่อเข้าทำงานเปิดแล้วค่อยเดินไปดื่มกาแฟ ทักทายเพื่อนร่วมงาน รู้ป่ะ ว่านี่คือการเปลืองไฟโดยใช่เหตุ เปิดคอมพิวเตอร์เมื่อจะเริ่มใช้งานจริง ๆ กันเถอะ

กระดาษมี 2 ด้าน ก็อย่าลืมใช้ทั้ง 2 ด้าน

ใช้กระดาษเท่าที่จำเป็น อะำรไม่สำคัญไม่ต้องปริ้นท์ออกมาให้เปลืองกระดาษ ไฟ หมึกพิมพ์ แต่ถ้าต้องใช้เอกสารจำนวนมากให้ใช้เครื่อง zerox จะประหยัดไฟและหมึกกว่า

ช่วงพักกลางวันไม่ต้องให้เตือน ปิดไฟ คอมพิวเตอร์ แอร์ ให้หมดจนเป็นนิสัย

จะส่งข้อมูล ก็ควรใช้ Thumb drive ดีกว่ามาใช้ Write VCD หรือ DVD นะ ไม่ต้องเปลืองแผ่น ถ้าจำเป็นจริง ๆ ใช้แผ่นแบบ RW ใช้แล้วสามารถใช้ได้อีก

ก่อนกลับบ้าน ช่วยกันดึงปลั๊กให้เกลี้ยงเลย ไม่งั้น เปลืองไฟกันข้ามคือแน่

ช่วยกันทั้ง Office แบบนี้สามารถลดโลกร้อนได้ไม่ยาก

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เดินลดโลกร้อนกันบ้างดีกว่า

เดินบ้าง ปั่นบ้าง ไปที่ใกล้ ๆ เช่นไปทางข้าวแถว ๆบ้าน จ่ายตลาด ซื้อขนม แทนการขับรถยนต์ หรือลองปั่นจักรยานชมวิวแทนการขับรถกินลม เที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

เดินและปั่นจักรยาน สองทางเลือกนี้เป็นการเดินทางที่ใช้พลังงานน้อยที่สุด และมีผลพลายได้คือเพิ่มกล้ามเนื้อน่อง สุขภาพแข็งแรงและมีหวังจะได้เป็นนางแบบ นายแบบ กะเค้าบ้างก็คราวนี้แหละ

การขี่จักรยานวันละ แค่ครึ่งชั่วโมงเป็นประจำ จะช่วยให้อายุยืนขึ้น 4 ปี(นิตยสารรักลูก 303 เมษายน 51)

เดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ ไม่ใช่เฉพาะแค่ช้ั้นสองชั้น ออกกำลังกายยิ่งออก ยิ่งได้

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลดโลกร้อน carpool

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้รถยนต์ หันมาใช้รถขนาดเล็ก รถประหยัดพลังงาน หากคุณใช้รถยนต์ออฟโรดหรือรถลีมูซีนขนาดใหญ่ เดินทางระยะทางต่ำกว่า 3,000 กิโลเมตร คุณสามารถใช้รถยนต์ขนาดเล็กไปได้ไกลกว่า 18,000 กิโลเมตร โดยปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณเท่ากัน (1.3 ตัน)

ขับรถช้า ๆ ไม่ได้พร้าเล่มงาม แต่คุณจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติสองข้างทางและประหยัดน้ำมันสุด ๆ หากคุณขับรถด้วยความเร็วประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชัวโมง จะประหยัดน้ำมันถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

จะประหยัดยิ่งกว่าถ้าหมั่นตรวจดูลมยาง และเช็คเครื่องยนต์ เพราะเมื่อยางอ่อนตัว จะทำให้การขับเคลือนด้วยประสิทธิภาพลดลง เปลืองน้ำมันมากขึ้น และควรเติมลมยางให้เหมาะกับรถ โดยทั่วไปปริมาณลมที่เหมาะสมจะระบุอยู่ที่ประตูฝั่งคนขับ เช็คดูซะ

ไม่ขับ ช่วยดับเครื่องด้วย อย่าติดเครื่องทิ้งไว้ การติดเครื่องเพียง 5 นาที ทำให้คุณต้องเสียน้ำมันไปถึงครึ่งลิตร

1 คัน หลายคน Car Pool เลิกใช้รถไม่ได้ แต่ร่วมกันใช้รถได้ ใครต้องไปไหนทางเดียวกันก็นั่งไปด้วยกัน ใครกลับบ้านทางเดียวกันก็นั่งกลับมาด้วยกัน ถ้ายังไม่เคยก็ลองซะ ลองถามเพื่อน ๆ ว่าใครอยู่ใกล้ ๆ บ้านเรา แล้วเริ่มต้นนัดหมายได้เลย ช่วยประหยัดน้ำมัน แล้วยังลดจำนวนรถติดบนถนนแถมไม่ต้องแย่งที่จอดรถกันให้วุ่นวาย ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมอีกด้วย

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

บินกันน้อย ๆ ลดโลกร้อน


บันกันน้อย ๆ หน่อย
การเดินทางท่องเทียวโดยเครื่องบินทั้งไปและกลับระยะทาง 2,500 กิโลเมตร หรือเท่ากับการเดินทางไปและกลับสิงคโปร์ 1 ทริป จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.3 ตันต่อผู้โดยสาร 1 คน หมายความว่า การบินเพียงครั้งเดียวอาจใช้พลังงานเท่ากับการขับรถ หรือเดินทางแบบอื่นทั้งปี ไม่ต้องถึงขั้นลดบิน แค่อั้นการปล่อยคาร์บอนก้อนมหึมาไว้บินเฉพาะการเดินทางไกลข้ามประเทศเท่านั้น ก็ช่วยได้เยอะแล้ว หากจำเป็นต้องไป หรือจะไปทั้งที ไปให้คุ้มและนานและต่อเครื่องให้น้อยที่สุด แทนที่จะเทียว 7 วัน 7 ประเทศ ก็ลองหันมาวางแผนแบบ 7 วัน 1 ประเทศ กันบ้าง จะได้มีเวลาเดินบ้าง วิ่งบ้าง ใช้รถรางบ้าง แทนที่จะต้องอยู่บนรถโค้ชตลอดเวลา

ใช้บริการขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ รถทัวร์ รถตู้ รถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน เรือ ประหยัดเงินในกระเป๋าตังค์และสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ น้อยกว่าการขับรถยนต์ส่วนตัวอีกเพียบ

รู้ป่ะ รถเมล์/ระบบขนส่งมวลชน มีผลการศึกษายีนยันว่า การใช้รถเมล์ ประหยัดพลังงานกว่ารถส่วนตัวถึง 3 เท่า

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

น่ารู้เกียวกันโลกร้อน

การขับรถยนต์ การนั่งเครื่องบัน ผลาญเชื้อเพลิง และเผาคาร์บอนได้ออกไซด์ออกมาตรง ๆ ขนาดมหึมา ยิ่งขับน้อย ยิ่งบินน้อยเท่าไหร่ก็จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและมลพิษมากเท่านั้น

โปรดทราบ คิดก่อนใช้พลังงานทุกครั้ง โดยการวางแผนการเดินทางก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อหาเส้นทางที่รถติดน้อย และจะได้ไม่หลองทาง

รู้ป่ะ การเดินทางประมาณ 1,000 ไม่ล์(1,609 กิโลเมตร) สร้างคาร์บอนไดออกไซด์ ต่อผู้โดยสาร 1 คน เท่าไหร่

เครื่องบิน มลพิษ 44o กิโลคาร์บอน
รถเล็ก มลพิษ 268 กิโลคาร์บอน
รถไฟ มลพิษ 204 กิโลคาร์บอน
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ มลพิษ 712 กิโลคาร์บอน
รถเมล์ รถบัส รถทัวร์ มลพิษ 122 กิโลคาร์บอน
ใช้จักรยาน คนไทยเสียเหงื่อ ไม่เสียน้ำตา มลพิษ 0 กิโลคาร์บอน

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลดโลกร้อน เริ่มที่ห้องครัว

ขวดน้ำพลาสติกเป็นขยะย่อยยาก เปลี่ยนมาใช้เครื่องกรองน้ำ เปิดดื่มได้เลย หรือต้มน้ำด้วยเตาแก๊ส ประหยัดแถมช่วยโลกร้อนอีกต่างหาก

ใช้ภาชนะรองน้ำล้างผัก ผลไม้ สะอาดแถมประหยัดกว่าเป็นไหน ๆ

รู้ป่ะ ล้างถ้วยชามจากก๊อกโดยตรง ใช้น้ำถึง 9 ลิตร/นาที เปลี่ยนมาเช็ดคราบสกประจากถ้วยชามออกก่อน แล้วล้างพร้อมกันในอ่างน้ำดีกว่า

ลดเนื้อ หันมาทานผักตามฤดูการ = ลดโลกร้อน ลดโรคอ้วน

ยิ่งกินไกลโลกยิ่งร้อน หันมากินพืชผักผลไม้บ้านเราดีกว่า ผลกีวีจากนิวซีแลนด์เพียงผลเดียว ต้องใช้พลังงานมหาศาลในการขนส่งมาถึงปากเรา กินอาหารในท้องถิ่มและกินอาหารปลอดสารพิษ ยิ่งเป็นเกษตรอินทรีย์ยิ่งดี เพราะไม่ต้องใช้ปุ๋ยเค มีที่ในกระบวนการผลิตปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่โลก

ในปี 2552 ประเทศไทยนำเข้าพืชและผลิตภัณฑ์จากพืชมูลค่าสูงถึง 123,317.61 ล้านบาท
(ที่มา:ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและสือสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร)

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลดโลกร้อน เริ่มที่ห้องน้ำ

ทิชชู ลด ๆ หน่อย บางคนดึงทิชชูมาใช้ยาวอย่างกับจะเอามาพันมัมมี่ได้ทั้งตัว ซึ่งหมายถึงการโค่นต้นไม้ลงจำนวนมหาศาล คิดก่อนใช้ ใช้เท่าที่จำเป็น ก็ช่วยได้มาแล้ว

ปิดไฟ จุดเทียน แนะนำเทียนขี้ผึ้งแท้ หรือเทียนไขถั่วเหลือง โรแมนติกสุด ๆ

เครื่องชั่งน้ำหนักแบบอนาล็อค ที่หน้าปัดเป็นเข็มบอกน้ำหนัก ไม่ต้องใส่ถ่าน ลดขยะพิษที่เต็มไปด้วยโลหะหนัก

การอาบน้ำแบบแคร์โลก คือการอาบน้ำโดยฝักบัว ยิ่งรูเล็ก ยิ่งแคร์มาก และอาบให้เร็วที่สุด ไม่ต้องถึงกับอาบน้ำแบบค่ายทหาร แค่อาบสัก 3 นาที ประมาณว่าร้องเพลงโปรดจบ 1 เพลงก็พอ

รู้ป่ะ การใช้ถ้วยน้ำตอนแปรงฟัน จะใช้น้ำประมาณ 3 กระป๋องน้ำอัดลม แต่การปล่อยน้ำไหลจากก็อกตลอดการแปรงฟัน จะใช้น้ำถึง 90 กระป๋องน้ำอัดลม

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลดโลกร้อน เริ่มที่ห้องรับแขก

โทรทัศน์ วิทยุ โฮมเธียร์เตอร์ จะมีโหมดสแตนด์บาย(stand by) ถ้าสแตนด์บายตลอดเวลา โดยทั่วไปกินไฟ 3-5 วัตต์ ซึ่งอาจดูน้อยมาก แต่ถ้าเปิดค้างทั้งวัน ทั้งคืน ทั้งปี หลายบ้านครัวเรือน เรื่องเล็ก ๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ช่วยกันปิดสวิตซ์และดึกปลั๊กออกทุกครั้ง หลังจากใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสร็จ

เลิกใช้หลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบ ใช้งานได้นานกว่า ให้แสงสว่างมากกว่า แต่กินไฟน้อยกว่าหลอดไส้ถึง 80 เปอร์เซนต์

แต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่า เก๋ เท่ห์ ไม่สิ้นเปลือง แถมให้ลุคคลาสสิกไปอีกแบบ

งดปูพรมในบ้าน เพราะว่าจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น แล้วขั้นตอนในการทำความสะอาดนั้นยุ่งยากมาก ต้องใช้เครื่องดูดฝุ่น น้ำยาทำความสะอาดพิเศษ ทำให้สิ้นเปลืองทั้งแรง พลังงาน และเงิน

ช่องรักเมืองไทย จูงมือกันมาดูช่องเดียวกัน ประหยัดพลังงาน ไม่ต้อง เปิดหลายเครื่อง

วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลดโลกร้อน เริ่มที่ห้องนอน


ห้องนอน
เลิกพฤติกรรเปิดแอร์แล้วสวมเสื้อกันหนาวเหมือนอยู่เขตขั้วโลกเสียที เปิดแค่ 25 องศาก็พอ ทุกองศาที่เพิ่มขึ้น ประหยัดไฟถึง 5 เปอร์เซนต์ แล้วอย่าลืมทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยเดือนละครั้ง และแผงระบายความร้อนปีละ 2 ครั้ง

กลางดึกอยากย่องไปไหน ๆ ใช้ไฟฉายพลังมือ เชค ๆ สั่น ๆ ปั่นเป็นไฟได้ ไม่ต้องใช้ถ่าน

จัดเก็บของให้เรียบร้อยจะได้รู้ว่าของที่มีอยู่ยังใช้ได้ ไม่ต้องซื้อใหม่ถ้าไม่จำเป็น

การชาร์จแบต มือถือ PDA โน๊ตบุ๊ค และอุปกรณ์ Gadget อื่น ๆ ชาร์จแบตค้างไว้ เสียค่าไฟเพิ่ม 95 เปอร์เซนต์ ถอดสายชาร์ตก่อนนอนดีกว่า

เลือกขนาดเตียงให้เหมาะสม ถ้านอนคนเดียวเหงา ๆ ใช้เตียง 3.5 ฟุต ถ้าเป็นคนตัวใหญ่ใช้ 4 ฟุต ถ้านอน 2 คนแบบอบอุ่นก็ใช้เตียง 5 ฟุตแทน 6 ฟุต ลดขนาดที่นอน ผ้าปูทีนอน ผ้านวมก็ผืนเล็กลง ซักง่ายกว่า ประหยัดเงินกว่า และประหยัดทรัพยากรอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลดโลกร้อน เริ่มที่บ้าน

บ้าน
ทุกคนสามารถช่วยโลกได้ง่าย ๆ ทุกที่ ทุกเวลา เริ่มจากที่บ้านคุณก่อนเลย ช่วยกันปลูกต้นไม้และไม่ตัดไม้กันเถอะ ถ้ารดน้ำต้นไม้จากน้ำสุดท้ายของน้ำล้างจาน น้ำซักผ้า และรดน้ำตอนเช้า ๆ หรือเย็น ๆ ประหวัดน้ำกว่ารดน้ำตอนเที่ยง ๆ แดดจัดๆ

ซักผ้า สะบัด ตาก ใส่ ไม่ต้องรีด ซื้อเสื้อที่ไม่ต้องรีด หรือใส่ยับ ๆ ก็ดูเท่ห์ได้
สำหรับบ้านที่มีสวน แนะนำให้ใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ่ยน้ำชีวภาพ แทนการใช้ปุ๋ย เคมีเร่งดอก เร่งสี เพราะสารเคมีเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

คุณซาเล้ง คือมีอปราบขยะมือหนึ่งที่จะพาพลาสติก ขวดแก้ว กระดาษ โลหะ เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ลดการใช้วัสถุดิบสำหรับการผลิตครั้งต่อไป

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

โลกร้อน เกี่ยวอะไรกับเรา

หลายคนพอได้ยินคำว่า โลกร้อน แล้วอาจรู้สึกว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ลำพังแค่ฉันคนเดียวคงไม่ทำให้โลกมันแย่หรอก และสองมือกับหนึ่งสมองเล็ก ๆ อย่างเราจะทำอะไรได้

แท้จริงเราทำได้มากกว่าที่คิด และทุกคนสามารถช่วยโลกได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกมุมโลก ไม่ถึงขนาดต้องลงทุนเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบ้านเรือนหรือซื้อรถโฮบริดให้เสียเงินเสียทองและเพิ่มมลพิษในกระบวนการผลิตให้กับโลก ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าคุณพร้อมจะเปลี่ยนความเชื่อ และความเคยชินเดิม ๆ หรือยัง ไม่ใช่แค่คิดว่าพร้อม แต่ต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ภาวะโลกร้อนคือ

ภาวะโลกร้อน (Global Warming) คืออะไร
-เป็นปรากฏการณ์อันเนื่องมาจากการที่โลกไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ จึงทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักของปัญหานี้มาจากก๊าซเรือนกระจก

ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases) มาจาไหน
-ก๊าซเรือนกระจกที่มีอยู่ในบรรยากาศโลก ซึ่งประกอบด้วย ก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ co2 ,มีเทน ch4, คลอโรฟลูโอโรคาร์บอน cfc, และไนตรัสออกไซด์ n2o
มีคุณสมบัติดูกลืนความร้อน ทำให้โลกอบอุ่น และเอื้อให้สิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ในโลกได้ แต่กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยเฉพาะหลังยุกปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นต้นมา มีการใช้พลังงานฟอสซิล (Fossil Fuel) เช่น น้ำมัน ถ่านหินมาก การสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ ทำให้ก๊าซเรือนกระจกถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศในปริมาณมากเกินสมดุล บรรยากาศโลกดูดกลือนความร้อนไว้มากขึ้นเกิดภาวะเรือนกระจก หรือโลกร้อน นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทั่งโลกนั่นเอง

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลดโลกร้อนกันดีกว่า

รับมือกับโลกร้อน ช่วยกันก่อนที่จะสาย
ซื้อมาแล้วใช้ไป ทำยังไงให้คุ้มค่า
วิกฤตพลังงาน ต้องช่วยกันอย่ารอช้า
เกิดขั้นเจอปัญหา อย่ารอช้าช่วยบรรเทา
โลกเราเราต้องรักษ์ ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา
ไม่ใช่เธอหรือเขา แต่คือเราทุกทุกคน
เมือเปิดก็ปิดบ้าง เรื่องทุกอย่างล้วนส่งผล
ประหยัดไว้ไม่จน เราทุกคนต้องช่วยกัน