วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สร้างทัศนคติที่ดี

สร้างทัศนคติที่ดี

การดำรงชีวิตให้มีความสุข จงนำทัศนคติที่ดีมาใช้ในการดำเนินชีวิต อันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเกิดความแตกต่างในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการทำงาน ซึ่งความสำเร็จได้มาจากทักษะในชีวิตประจำวัน ผลที่ได้รับก็คือชีวิตมีความสุขและพรั่งพร้อมไปด้วยความรัก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเราเองเป็นผู้กำหนดและทำตามทัศนคติที่เราตั้งไว้ ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ทัศนคติด้านความต้องการที่จะดำรงชิวิตให้สมบูรณ์แบบ เราจะค้นพบอำนาจอย่างหนึ่งที่มั่งคั่งในชีวิตและหน้าที่การงาน เช่นเดียวกับบทกวีของเฮนรี่ทีว่า ข้าพเจ้าเป็นนายแห่งชะตาชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นกัปตันแห่งวิญญาณของข้าพเจ้า เขาบอกให้เรารู้ว่าเราเป็นเจ้านายชะตาชีวิตของเราเองเพราะเราอยู่ด้วยในความควบคุมของทัศนคติของเรานั่นเอง

หลายต่อหลายคน ต่างบอกว่า ทัศนติเป็นได้ทั้งการสร้างสรรค์และทำลาย ซึ่งเราสามารถแปรความคิดเหล่านั้นโดยการมีทัศนคติที่ดี และเราต้องเป็นคนมีความเมตตา หากทำได้เราก็จะประสบความสำเร็จแต่หากเราประเมินค่าทัศนคติทีดีต่ำไป มองในแง่ลบหรือเราไม่ยอมรับสิ่งเหล่านั้น ความสำเร็จก็จะไม่มีวันให้เราได้ชื่นชม

นี่คือส่วนหนึ่งของแบบทดสอบเกี่ยวกับทัศนคติของดัวท่านเองและบ่อยครั้ง ที่เราต้องเจอ และหากเป็นอย่างนั้นเรจะยอมรับหรือแก้ไขอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น

ข้าพเจ้ามีทัศนคติอย่างไรกับตัวเอง

ข้าพเจ้ามีทัศนคติต่อเพื่อนร่วมงานอย่างไร

สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการมากที่สุดคืออะไร

โดยรวมแล้วบุคลิกของข้าพเจ้าเป็นอย่างไร

ข้าพเจ้าสนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ

ข้าพเจ้ามีความถนัดหรือชอบในเรื่องใดเป็นพิเศษ

ข้าพเจ้าชอบอ่านหนังสือแนวไหนมากที่สุด เพราะอะไร

ข้าพเจ้าชอบดูหนัง ละครแนวไหนมากที่สุด เพราะอะไร

ข้าพเจ้าชอบฟังเพลงแนวไหนมากที่สุด เพราะอะไร

ข้าพเจ้าเป็นคนชอบทอล์กโชว์ ละครเวทีบ้างหรือเปล่า

ข้าพเจ้าชอบท่องเที่ยวประเภทไหน และที่เที่ยวที่ชอบเพราะอะไร

ข้าพเจ้าชอบทำงานอะไรมากที่สุด

ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นในรื่องลี้ลับหรือเปล่า

แบบทดสอบนี้คือสิ่งที่ต้องการรู้ว่าตัวตนของเราเป็นเชี่นไร เรามีทัศนคติอย่างไร และหากสิ่งที่เราเจอแล้วไม่มีในแบบทดสอบเราจะมีวิธีแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าอย่างไร

ก่อนอื่นเราต้องเป็นคนรอบคอบ มีความตั้งใจ และที่สำคัญเราจะต้องมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งรอบข้างแล้วความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินความตั้งใจ

ที่มา : http://goal-target.blogspot.com/2010/10/3.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น