วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คู่มือรถใช้ก๊าซ

แม้คนไทยจะเริ่มชินกับ น้ำมันแพง กันบ้างแล้ว แต่ยังไง ๆ แพงก็คือแพง ซึ่งสำหรับคนที่มีรถใช้ ส่วนหนึ่งก็หันไปพืึ่งพา "แก๊ส"หรือ "ก๊าซ"มีการนำรถไปติดตั้งระบบการใช้ก๊าซแทนการใช้น้ำมันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ขณะเดียวกันก็อาจจะเกิดการหวั่น ๆ ในเรื่อง"ความปลอดภัย"

รถไฟไหม้ แม้แต่กับรถที่ใช้น้ำมันก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่กับรถใช้ก๊าซ ความกลัวในเรื่องนี้มากกว่า!!!

ทั้งนี้กับเรื่องความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ใช้รถติดตั้งระบบใช้ก๊าซนั้น ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยมีการจัดทำคู่มือให้ความรู้ที่น่าสนใจ กล่าวคือ
รถยนต์ฺที่ติดตั้งระบบใช้ก๊าซนั้นจำเป็นต้องหมั่นตรวจเช๊กดูแลรักษาเป็นอย่างดีและควรต้องรู้วิธีปฏิบัติเมืี่่อรถใช้ก๊าซเกิดประสบอุบัติเหตุ
สำหรับการดูแลรักษารถยนต์ที่ใช้ก๊าซนั้น มี่ดังนี้
1.ต้องตรวจสอบและระบบก๊าซตามระยะที่กำหนด
2.หมั่นตรวจสอบข้อต่อท่อก๊่าซ
3.ควรเติมน้ำมันให้อยู่ในระดับ1/4ของถังน้ำมันด้วย เพราะขณะสตาร์ตต้องใช้การเผาไหม้จากน้ำมัน เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วระบบจึงจะถูกปรับไปใช้ก๊าซแทน
4.ต้องเติมก๊าซจากสถานีบริการที่ได้มาตรฐานเท่าน้ำ
5.หากไม่ใช้รถเป็นเวลานานควรปิดวาล์วมือหมุนที่ถังก๊าซ เืพื่อป้องกันระบบวาล์วไฟฟ้าบกพร่อง เพราะถ้าบกพร่องอาจเกิดการะิเบิดหรือเพลิงไหม้ได้

สกู๊ปหน้า1
เดลินิวส์
ฉบับที่25/11/52

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พญานาค

พญานาค จริงๆ แล้วคือ ปลาออร์ (OAR FISH)
ซึ่งรับการขนานนามว่า มังกรทะเลลึก" (Dragons of The Deep)











นับเป็นเวลานานมาแล้ว..
ที่มนุษย์มีความเคลือบแคลง-สงสัย..เกี่ยวกับสัตว์ทะเลที่มีชื่อว่า

"
มังกรทะเลลึก" (Dragons of The Deep)

มีนิยายเก่าแก่..ที่บรรยายถึงมังกรทะเลกล่าวไว้ว่า

"
มังกรทะเล..มีลำตัวยาวคล้ายงู..หัวเหมือนม้า
มีขนคอสีแดงดุจเปลวเพลิง"


ชาวประมง..เคยพบสัตว์ประหลาดชนิดนี้ ..
ขณะที่แล่นเรือหาปลาอยู่ในทะเล


ปัญหาของปลาลึกลับ..ดังกล่าวนี้
นักวิทยาศาสตร์..ได้ทำการค้นคว้าหาความจริง


ในที่สุด..ก็พบความจริงว่า

"
มังกรทะเลลึก" ที่กล่าวถึงนั้น
ที่แท้แล้ว..ก็คือ
ปลาประหลาดชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า ..ปลาใบพาย หรือ..ปลาริบบิ้น..นั่นเอง
บางทีก็เรียกว่า ..
ปลาออร์ (OAR FISH)

ปลาชนิดนี้..มีขากรรไกรยาว.. หน้าผากโหนกคล้ายม้า ตาโต
คลีบบนหลัง..ยื่นออกมายาวเลยหัว ..


มีคลีบพิเศษ..ยื่นออกมาทั้งสองข้างของส่วนหัว..คล้ายใบพาย
และมีลำตัวแบน .


ปลาประหลาดชนิดนี้..หาดูได้ยากที่สุดในโลก
เพราะมันอยู่ในความลึกของท้องทะเล..ถึง
3,000 ฟุต
และเคยพบตัวใหญ่ที่สุด..มีความยาวถึง
200 ฟุต

แม้ว่า..สัตว์ประหลาดชนิดนี้...จะมีขนาดใหญ่โตอย่างไร
แต่ก็ไม่เป็นพิษ..เป็นภัย..กับมนุษย์
เพราะมันไม่มีเขี้ยวเล็บอะไร.. และเป็นสัตว์โลกที่แสนสวย..น่าดูมาก

ภาพนี้..หลายคนเชื่อว่าเป็น..พญานาค
แต่จริงๆ..มันก็คือ..เจ้าปลาไหล..หรือ..มังกรทะเลลึก
ส่วนใหญ่...ก็จะพบในสภาพที่ตายแล้ว
เพราะเมื่อมันพัดหลงมาน้ำตื่นเมื่อไหร่
.มันก็จะตายทันที

นี่ก็เป็นอีกตัว-ที่เจอ ... แต่เล็กกว่าตัวข้างบน .สภาพสมบูรณ์กว่าด้วย
แต่อย่าไปคิดว่า..เป็นลูกพญานาคอีกนะ
เพราะถ้าเป็นพญานาคจริงๆ...
คงไม่ให้เราจับได้ง่ายแบบนี้แน่..คุณว่ามั๊ย
?




วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทายนิสัยจากขนมสุดโปรด

เรามาดูกันดีกว่าว่าขนมที่เราชอบกิน จะบอกนิสัยเราได้แม่นยำขนาดไหน
อ่านแล้วลองดูเอาเองก็แล้วกัน

ของหมักดอง ของหมักดอง
คล่องแคล่ว ว่องไว แต่จะเบื่ออะไรง่าย ๆ อยู่สักหน่อย ทำอะไรเป็นพัก ๆ จะออกหัวหรือก้อยเอาไว้คอยลุ้นกันต่อไป ชอบที่จะเข้าสังคมพบปะผู้อื่น จะให้เค้าคนนี้อยู่คนเดียวไม่ได้แน่นอน ค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง โกรธง่าย และก็โกรธนานด้วยสิ

ความรัก ค่อนข้างยุ่งเหยิงพัวพันอยู่ไม่น้อย สับรางกันแทบไม่ค่อยจะทัน ไม่ใช่ว่าเจ้าชู้นะ แต่แค่เสน่ห์แรงเท่านั้นเอง


เวเฟอร์
เป็นคนที่มีมุมมองในแง่ดี ชอบที่จะคิดสร้างสรรค์มากกว่าจะทำลาย มีไอเดียใหม่อยู่เสมอ ๆ แถมยังเป็นคนที่มีอุดมการณNไม่ใช่เล่น ชอบที่จะคิดเรื่องของวันพรุ่งนี้ มากกว่าที่จะย้อนหลังไปเมื่อวันวาน บางครั้งเอาแต่ใจตัวเองนิดๆ แต่รักเพื่อนนะ แถมยังหนักแน่นไม่โลเลอีกต่างหาก

ความรัก ไม่ค่อยหวือหวาหรือโดดเด่นในสายตาของใครๆ เรียบๆ ง่ายๆ กินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวด้วยกันเหมือนคู่อื่น จริงจังและก็จริงใจสุด ๆ


ขนมปังแท่ง
เป็นคนที่ค่อนข้างที่จะหนักแน่นพอสมควร เถรตรง เป็นคน hiper กระตือรือร้นกับทุกเรื่อง รักความก้าวหน้า และคนกลุ่มนี้มักจะเป็นคนที่ทำอะไร แล้วมักจะทำได้ดี ชอบคิดและค้น สร้างสรรค์แต่สิ่งใหม่ ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่นว่าตอนนี้อะไรที่กำลัง Hot Hit หรือมาแรง ตามติดๆ อยู่แล้ว

ความรัก ก็ค่อนข้างจะช่างเลือกนิด ๆ คนที่รักหรือคิดจะคบด้วย ต้องเป็นคนดีไม่ถึงกับว่าเลิศหรู แต่ต้องเชื่อใจ+เข้าใจ เพราะ ความรักเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับเค้า


ขนมเยลลี่
รักสนุก เรื่องยุกยิกไม่ชอบเก็บไปคิดให้ปวดขมองหรอกนะ คนกลุ่มนี้เป็นคนติดเพื่อนมาก อ่อนไหวบ้างเป็นบางครั้ง และที่น่ารัก ก็แหมเป็นคนที่เคารพในการตัดสินใจของคนอื่นเสมอ ไม่ชอบอวดหรือโชว์ความดี ความเด่นของตัวเองให้ใคร ๆ รู้

ความรัก ถึงไม่ใช่คนโรแมนติก แต่ความจริงใจเกินร้อย


ช็อคโกแลต
ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ หรือผูกมัดจนเกินความพอดี สบายๆ อะไรก็ได้ ไม่ค่อยถือสาหาความใคร และไม่ชอบยึดติดกับอะไรนานๆ ด้วยเหมือนกัน ไม่ชอบตั้งกฎเกณฑ์หรือให้ใครมาตั้งกฎให้กับตัวเอง หรือล้อมคอกความรู้สึกของใครไว้ และที่สำคัญ เค้าคนนั้นสามารถที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของทุกคนได้ แต่มีเหมือนกันที่บางครั้งก็แอบขี้น้อยใจกับเค้าเหมือนกัน

ความรัก ค่อนข้างจะแฟร์กับเรื่องแบบนี้พอสมควร ไม่ขี้หึงอะไรที่ไม่เข้าเรื่อง และกับคนที่ชอบถึงแม้จะเป็นคนรู้ใจกันไม่ได้ ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันได้นี่...


ขนมปัง
ตามแฟชั่นหรือเรียกแบบว่าเห่อก็ได้ ไม่ว่าอะไรที่ตอนนี้ in หรือ out ตามกระแสสุดตัว และที่สำคัญชอบอยู่รวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อน ให้ตายสิก็เค้าไม่ชอบที่จะเป็นประเภทฉายเดี่ยว แบบขาดเพื่อนไม่ได้ จะทำอะไรก็ได้ขอมีเพื่อนพ่วงท้ายไว้ก่อน รักสนุก ชอบเฮฮาปาร์ตี้ ไปไหนไปด้วย แต่ช่วยออกสตางค์นะจ๊ะ เป็นนักฝันที่ดี บางครั้งดูจะขี้โวยวายไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นพิษภัยให้ใครเดือดร้อน

ความรัก ไม่ค่อยจะซีเรียสตั้งกฎ ตายตัว ต้องเป็นยังงั้น หวีดกันขนาดนี้ เอาเป็นว่าปล่อยให้ความรักมันเป็นไปอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ รักก็คือรัก ไม่ตามติดให้รำคาญใจ


ถั่ว
ไม่ค่อยจะจริงจังกับชีวิต ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เซอร์ๆ เฮฮ่าไปวันๆ ค่อนข้างจะรักอิสระ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร บางครั้งติดจะ โลดโผน มีความคิดแปลกกว่าชาวบ้าน ชอบที่จะทำอะไรแผลง ๆ เป็นแบบทำอะไรก็ได้เอามันไว้ก่อน แต่ก็อย่าพึ่งมองคนประเภทนี้เป็นคนไม่ดี เพราะเค้าค่อนข้างจะแฟร์ แถมยังเป็นคนตรง ไม่ชอบเสแสร้งแกล้งทำ

ความรัก คนแบบนี้ความรักไม่ค่อยให้ความสำคัญอะไรมากมายนัก มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่สำคัญ! เค้าไม่เคยวาดฝันว่าความรักต้องเพอร์เฟ็คและดีที่สุด


หมากฝรั่ง
เป็นคนค่อนข้างที่จะกล้าได้กล้าเสี่ยง ชอบความท้าทาย ลุยๆ และก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญนะชอบทำอะไรแหวก แหกกฎอยู่เสมอ อะไรที่เหมือนกับคนอื่นๆ เค้าล่ะก้อ ไม่เอาด้วยหรอก ไม่เด็ดขาด เป็นตัว

ความรัก ค่อนข้างจะเปิดเผย รักชอบใครก็จะพูดหรือ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มาคลายเครียดกันดีกว่า



เป็นวันที่เลวร้ายจริง ๆ คงไม่ต้องบรรยายอะไรแล้ว ภาพมันฟ้อง...ฮาาาา

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

There is some good in the worst of us.

คนที่เลวที่สุดก็ต้องมีดีอยู่บ้าง

ไปบริจาคเลือดกันดีกว่า

คุณทราบหรือไม่ว่าเลือดที่เราบริจาคในแต่ละครับเพียง 8-10% ของปริมาณเลือดที่มีอยู่ในร่างกาย ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่มีอาการใด ๆ ต่อร่างกายทั้งสิ้นและร่ายกายจะสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนอย่างรวดเร็ว ดังนั้นมาช่วยเพื่อนมนุษย์โดยการบริจาคเลือดกันดีกว่า


ผุ้ที่จะสามารถบริจาคโลหิตได้ตามมาตรฐานของสภากาชาดไทยต้องมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป อายุระหว่าง 17-60 ปี ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องไม่เกิน 55 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ ไม่อยุ่ในระยะให้นมบุตร คลอดบุตร หรือแท้งบุตร ภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่ท้องเสีย ท้องร่วงภายใน7วันที่ผ่านมา ฯลฯ ซึ่งจะมีการกรอกแบบสอบถามก่อนบริจาค ดังนั้นจึงควรตอบตามความเป็นจริงนะครับ

การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต
นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชัวโมงต่อเนื่อง ในเวลาปกติคือก่อนวันบริจาค
รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสุง และยาธาตุเหล็กเพิ่ม
รับประทานอาหารมื้อหลักก่อนมาบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากจะทให้สีของพลาสมาผิดปกติเป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้ได้
ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว และเครื่องดื่มเหลวเพิ่ม เช่นน้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในร่างกาย จะช่วยป้องกันอาหารแทรกซ้อน เช่น มึนงง อ่อนเพลีย หรือวิงเวียนศรีษะภายหลังบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาค
งดสูบบุหรี่ ก่อนและหลังบริจากโลหิต 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี


หลังบริจาคโลหิตควรปฏิบัติตังนี้
ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เป็นเวลา 1-2 วัน
หลีกเลี่ยงการทำซาวน่า หรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมาก ๆ งดใช้กำลังแขนข้างที่เจาะ รวมถึงการหิ้วของหนักเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ภายหลังการบริจาค
ถ้ามีอาการเวียนศรีษะคล้ายจะเป็นลม หรือรู้สึกผิดปกติ ให้รีบนั่งก้มศรีษะต่ำระหว่างเข่า หรือนอนราบยกเท้าสูงจะกระทั่งมีอาการปกติจึงลุกขึ้น และเดินทางกลับ ป้องกันอุบัติเหตุจากการล้ม
ถ้ามีโลหิตซึมออกมาจากรอยผ้าปิดแผล อย่าตกใจ ให้ใช้นิ้วมืออีกด้านหนึ่งกดลงบนผ้าก๊อซ กดให้แน่นและยกแขนสูงไว้ประมาณ 3-5 นาที หากยังไม่หยุดซึมให้กลับมายังสถานที่รับบริจาคเพื่อพบแพทย์หรือพยาบาล
ผุ้บริจาคโลหิตที่ทำงานปีนป่านที่สุง หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ควรหยุดพัก 1 วัน
รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงและยาธาตุเหล็กที่ได้รับวันละอย่างน้อย 1 เม็ด จนหมดเพื่อป้องกันการขาดธาตุเหล็ก

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

When in love everything is sweet.

เมื่ออยู่ในความรักทุกสิ่งก็ดูหวานไปหมด

โรคฉี่หนู (Leptospirosis)

อย่างที่รู้กันว่าช่วงฤดูฝน ปัญหาหนึ่งที่แก้กันไม่ตกก็เห็นจะเป็นบรรดาสัตว์ตัวเล็กที่ไม่พึงปรารถนา มักจะหนีฝนเข้ามาอาศัยในบ้านเรือน นอกจากจะสร้างความรำคาณแล้ว สัตว์พวกนี้ยังเป็นตัวนำโรคร้ายมาสู่คนที่คุณรักได้ โรคที่มาจากสัตว์จำพวกนี้มักจะพบบ่อยคือ "โรคฉี่หนู"

โรงนี้พบได้ทั้งจากคนและสัตว์ โดยในสัตว์ที่เป็นพาหะนั้นอยู่รอบตัวเราเอง มักพบในหนู วัว ควาย สุกร หมา แมว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวสำคัญที่พบบ่อยสุดคือ หนู นั้นเอง ซึ่งเป็นที่มาของ โรคฉีหนู เชื้อโรคนี้เป็นเชื้อแบคทีเรีย ชื่อว่า เลปโตสไปร่า แรกเริ่มนั้นหนูเป็นตัวแพร่ที่สำคัญ เพราะเชื้อจะอยู่ในไตของหนู ทุกครั้งที่สัตว์พวกนี้ฉี่ออกมาก ก็จะปล่อยเชื้อโรคออกมาด้วย และปนเปื้อนอยู่ตามพื้น หรือสิ่งของต่าง ๆ คนสามารถติดเชื้อจากการสัมผัสเชื้อที่อยู่ในที่ต่าง ๆ หรือในปัสสาวะของหนู หรือบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนฉี่ของหนู เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังที่มีบาดแผล รอยถลอก เยื่อบุต่าง ๆ และผิวหนังที่นุ่มจากการแข่น้ำนาน ๆ หลังจากเชื้อเข้าสู่ร่างการจะมีระยะฟักตัวของโรคประมาณ 5-14 วัน เฉลี่ย 10 วัน

สำหรับอาการที่เกิดขึ้นกับผู้ติดเชื้อโรคฉี่หนู มี 2 แบบ คือ แบบที่ไม่รุนแรงจะมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา ปวดหัว ตัวร้อน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ต่างจากโรคติดเชื้ออื่น ๆ อีกหลายชนิด แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรง เชื้อจะเข้าไปอยู่บริเวณที่ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกัน เช่น ลูกตา จะทำให้มีอาการตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ หากเชื้อจะเข้าไปอยู่ในสมองจะทำให้มีเลือดออกในร่างการ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต

เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคฉี่หนู่ ควรหลีกเลี่ยงจากแหล่งสกปรก บริเวณที่เป็นแหล่งสะสม ของเชื้้อโรค และควรปฎิบัติตัวให้ถูกสุขลักษะดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการแข่น้ำ ลุยน้ำหรือว่ายน้ำในขณะที่มีน้ำท่วมขัง ถ้าหากจำเป็น ต้องพยายามไม่ให้น้ำเข้าตา จมูก หรือปาก
2.หลีกเลี่ยงการเดินย่ำโคลน ดินชื้้นแฉะ ด้วยเท้าเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่่อมีบาทแผล รอยขีดข่วน ที่ขา และเท้า ควรสวมรองเท้ายางหุ้มข้อ เพื่อการป้องกันเชื้อโรค
3.ดูแลบ้านเรือนให้สะอาด ไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินของหนู ซึ่งเป็นพาหะนำโรค
4.กำจัดขยะ ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และที่อาศัยของหนู
5.ควรเก็บอาหารไว้ในที่มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้หนูถ่ายปัสสาวะรดอาหาร
6.อาหารที่ค้างมื้อ เมื่อนำมากินในมื้อต่อไป จะต้องนำมาอุ่นให้เดือดเสียก่อน เพื่อให้เชื้้อโรคที่อาจปะปนอยู่ในอาหารถูกทำลายโดยความร้อย
7.นำสัตว์ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี
8.ควรปิดฝาโอ่งหรือภาชนะบรรจุน้ำ เพื่อป้องกันหนูมาถ่ายปัสสาวะลงไปในน้ำ
9.ภาชนะที่ใช้ใส่อาหาร ควรล้างทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้้อโรค
10.ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหาร

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นแนวทางในการปฎิบัติเพื่อป้องกันให้พ้นจากโรคฉี่หนูและแมลงสาบให้หมดไปได้ รับรองว่าโรคร้ายจะไม่มาเยีอนคุณและสมาชิกในครอบครัวคุณอย่างแน่นอน

106 Magaxine
May 2009

Kindness is even nobler than revenge.

ความเมตตาธรรมนั้นย่อมสูงส่งกว่าความพยาบาทเป็นไหน ๆ

วันบริพัตร

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้ สมเต็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครสวรค์วรพินิต ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2447 ด้วยพระราชดำริว่า "เห็นควรว่าจะให้มีผู้บัญชาการจัดการปกครองกรมให้ลงระเบียบเรียบร้อยราชการทหารเรือจึงดำเนินไปได้ เหนว่าชายบริพัตรมีสติปัญญาและความเพียรมั่งคงอยู่ จึงตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกรมทหารเรือ"

จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 33 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ประสูติเมื่อวันพุธ เดือน 8 ขึ้น 3 ค่ำ ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2424 ในพระบรมมหาราชวัง

พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาตามแบบอย่างของพระราชกุมาร พระราชกุมารี ในสมัยนั้นอย่างครบถ้วน หลังจากพิธีโสกันต์แล้วเมื่อปี พ.ศ.2437 เสด็จไปทรงศึกษาต่อในยุโรป โดยทรงศึกษาที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นได้เสด็จไปทรงศึกษา ณ โรงเรียนนายร้อยที่ปอร์ตสดัม ประเทศเยอรมนี ด้วยความมานะบากบั่น ทำให้พระองค์ทรงจบการศึกษาสอบเป็นนายทหารด้วยคะแนนดีมาก และทรงเข้ารับราชการในกองทัพบกเยอรมณี นับว่าพระองค์ได้สร้างเกียรติประวัติอันดีเด่นของนายทหารไทยไว้กับกองทัพบกเยอรมนีอย่างยากที่จะหาผู้ที่มาเทียบเคียงได้ หลังจากที่พระองค์ลาออกจากตำแหน่งนายทหารกองทัพบงเยอรมนี และเสด็จมาถึงประเทศไทย ทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก จนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2447 ทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ

พระองค์ได้ทรงบุกเบิกและวางรากฐานความเจริญด้านต่าง ๆ ให้แก่กองทัพเรือเป็นอันมาก คุณูปการที่ทรงมีต่อกองทัพเรือที่สำคัญ ๆ อาทิ ทรงจัดระเบียบราชการในกองทัพเรือให้รัดกุม ทรงจัดทำข้อบังคับการทหารเรื่อว่าด้วยหน้าที่ราชการในเรือหลวง ทรงวางรากฐานการจัดระเบียบการเรียนการสอนในโรงเรียนนายเรือใหม่ ทรงขยายและปรับปรุ่งอู่หลวง ทรงวางรากฐานกองดุริยางค์ทหารเรือ ทรงจัดทำโครงสร้างกำลังทหารเรือ ทรงเสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพเรือ โดยทรงสั่งซื้อเรือรบจากต่างประเทศเข้ามาประจำการเป็นจำนวนมาก อาทิ เรือพระที่นั่งมหาจักรี (ลำที่1) เรือพระที่นั่งเวสาตรี เรือพิทยัมรณยุทธ์ ตรงสนับสนุนการก่อตั้งราชนาวิกสภา ทรงกำหนดรูปแบบริ้วกระบวนเรือพระราชพิธี และการสร้างเรือพระราชพิธีใหม่ ทรงวางแบบแผนการยิงสลุต ทรงกำหนดเครื่องแต่งการทหารเรือ ทรงจัดให้มีพระธรรมนูญศาสทหารและกรมพระธรรมนูญทหารเรือ การปรับปรุงการสหโภชน์และก่อตั้งโรงเรียนสูทกรรม ทรงตั้งคลังแสงทหารเรือ ทรงตั้งคลังแสงทหารเรือ ทรงปรับปรุงการแพทย์ทหารเรือ ทรงทำการสำรวจและจัดทำแผนที่น่านน้ำสยามขึ้นใหม่ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น กรมอุทกศาสตร์

จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุทพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2447 สิริพระชนมายุได้ 63 พรรษา แม้ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์มาเป็นเวลา 65 ปีแล้วก็ตาม แต่พระกรณียกิจของพระองค์เป็นคุณประโยชน์แก่กองทัพเรือ จึงได้กำหนดระเบียบปฎิบัติประจำให้มีการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน โดยกำหนดวันประสูติ ซึ่งตรงกับวันที่ 29 มิถุนายน ของทุกปี เป็น"วันบริพัตร" มีงานเพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ณ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม อันเป็นสถานที่ประดิษฐานพระอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน ในงานมีพิธีบวงสรวง พิธีวางพานพุ่มสักการะพระอนุสาวรีย์ พิธีสงฆ์ และยังมีการจัดนิทรรศการพระประวัติ พระกรณียกิจ ที่ทำให้กองทัพเรือมีความเจริยก้าวหน้าจนเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน สมดังที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสชมเชยว่า "น้องชายบริพัตร ที่ได้เล่าเรียนศึกษามาในทางทหารบกโดยแท้ แต่ด้วยความจงรักภักดี ทูลกระหม่อม (รัชการที่5) รับสั่งให้ไปรับราชการทางทหารเรือก็ได้ไปทำการนั้น โดยเกือบจะเรียกว่าต้องฝึกนิสัยเพราะเป็นทหารบก แต่ที่แท้ฝืนได้ดีปานนี้ ทานทั้งหลายคงจะแลเห็นพยานปรากฎชัดเจนอยู่แล้วว่ากิจการทหารเรือได้ดำเนินขึ้นสู่ความเจริญปานใด"

เสียงจากทหารเรือ
กองปฏิตบัติการจิตวิทยา
กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ
106 Magazine
may2009

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

If we don't go forword,we shall be backword.

ถ้าเราไม่เดินหน้า เราก็ต้องล้าหลัง

ไวรัสตัวจริง (real virus) ตัวแรกที่พบบนแพลตฟอร์ม Mac OS X

บริษัทแอนตี้ไวรัสประกาศว่าสามารถตรวจจับไวรัสที่มุ่งจู่โจมคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ซึ่งทำงานด้วยระบบปฎิบัติการแมคโอเอสเอ็กซ์ (Mac OS X) ของแอปเปิลคอมพิวเตอร์ได้แล้ว สร้างความฮือฮาเนื่องจากไวรัสดังกล่าวถือเป็นไวรัสตัวแรกที่มุ่งโจมตีแพลตฟอร์มการทำงานคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงต่อภัยคุกคามไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์อีกต่อไป

ไวรัสตัวแรกที่จ้องเล่นงานระบบปฏิบัติการแมคโอเอสเอ็กซ์ของแอปเปิลตัวนี้ถูกเรียกว่า OSX/Leap-A ซึ่งเป็นชื่อที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของบริษัทโซโฟส (Sophos) บริษัทแอนตี้ไวรัสชื่อดัง

โซโฟสระบุว่า ไวรัสดังกล่าวแพร่กระจายโดยอาศัยโปรแกรมไอแชท (iChat) โปรแกรมส่งข้อความสนทนาหรือไอเอ็ม (instant messaging) บนแมคโอเอสเท็น ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมเอไอเอ็ม (AIM) โปรแกรมแชทยอดฮิตจากอเมริกาออนไลน์ (America Online)

ไวรัส Leap-A จะส่งต่อตัวเองออกไปในรูปของไฟล์ชื่อ latestpics.tgz โดยจะส่งให้กับรายชื่อคอนเทคที่อยู่ในรายการที่เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสตัวนี้เข้าไป

ที่ผ่านมา โปรแกรมไวรัสเหล่านี้มักจะมุ่งโจมตีระบบปฏิบัติการที่มีการใช้งานแพร่หลายมากๆอย่างเช่นระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) หรือโปรแกรมอื่นๆของไมโครซอฟท์ (Microsoft Corp.) เนื่องจาก จำนวนการใช้งานวงกว้างจะสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้พัฒนาไวรัส เพราะช่วยเพิ่มโอกาสและช่องทางในการแพร่กระจายได้มาก ซึ่งการสำรวจพบว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์นั้นถูกใช้ในเครื่องพีซีมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก

"ไวรัสระบบปฏิบัติการแมคโอเอสเอ็กซ์ตัวแรก เป็นตัวอย่างสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ไวรัสและมัลแวร์ไม่พึงประสงค์ต่างๆเริ่มมุ่งไปที่ระบบปฏิบัติการรายอื่นแล้วในขณะนี้" วินเซ็นต์ วีเฟอร์ (Vincent Weafer) ประธานอาวุโสของบริษัทแอนตี้ไวรัสไซแมนเทค (Symantec) ให้ความเห็น

วีเฟอร์อธิบายว่า ไวรัส Leap-A ไม่สามารถจู่โจมคอมพิวเตอร์แมคอินทอชได้แบบอัตโนมัติ โดยจะต้องรอให้เจ้าของเครื่องคลิกรับไฟล์ที่ส่งมาก่อน จึงจะสามารถเข้าสู่คอมพิวเตอร์ดังกล่าว

ด้านเกรแฮม คลูลีย์ (Graham Cluley) ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเทคโนโลยีของโซโฟส มองว่า Leap-A จะเป็นการยืนยันว่า ภัยคุกคามบน Mac OS X เป็นเรื่องจริง

"นี่คือไวรัสตัวจริง (real virus) ตัวแรกที่พบบนแพลตฟอร์ม Mac OS X ผู้ใช้คอมพิวเตอร์แมคอินทอชบางรายเชื่อว่า ระบบปฏิบัติการแมคโอเอสเอ็กซ์ไม่มีทางที่จะติดไวรัสได้ แต่ Leap-A จะทำให้พวกเขาเห็นว่า แมคโอเอสเอ็กซ์ติดไวรัสได้จริงๆ”

ไซแมนเทคจัดอันดับความร้ายแรงให้ไวรัสแมคอินทอชตัวแรกนี้ที่เลเวล 1 (Level 1) ซึ่งเป็นอันดับร้ายแรงน้อยที่สุด จากทั้งหมด 5 เลเวล

ไวรัส Leap-A ได้เริ่มแพร่กระจายออกไปหลังจากที่สมาชิกในเว็บบอร์ดกลุ่มผู้ใช้แมคอินทอชหรือ Mac user forum ถูกหลอกให้คลิกไฟล์แฝงไวรัส ซึ่งมีการโพสต์หลอกลวงว่าเป็นลิงค์แสดงรูปหน้าจอ (screenshot) ของแมคโอเอสเอ็กซ์เวอร์ชันใหม่ Leopard Mac OS X 10.5 โดยยังไม่มีรายงานความเห็นใดๆจากตัวแทนของแอปเปิลคอมพิวเตอร์ในขณะนี้


ผู้จัดการออนไลน์

The lost time is lost forever.

เวลาที่เสียไปแล้วย่อมเสียตลอดกาล

ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://

ข้อความรูเกี่ยวกับ http กับ https ที่เห็นกับบ่อยในอินเทอร์เน็ต แต่คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ถึงความแตกต่าง เวลาท่องเน็ตหรืออาจต้องทำธุรกรรมบางอย่าง เช่นซื้อของผ่ายบัตรเครดิตในอินเทอร์เน็ต แล้วต้องใส่รหัสบัตรเครดิต ต้องระวังมากๆ
สังเกตง่ายๆ ดูที่เว็บไซด์ที่ทำการกลอกข้อมูลส่วนตัวลงไปนั้นเป็น http:// หรือ https://

https:// ตัว s ที่ต่อท้ายมีความหมายว่า “Secure” ก็คือความปลอดภัยสำหรับการซื้อ การกรอกแบบฟอร์ม เช่นบัตรเครดิตในเว็บที่เป็น https://ถ้าจะกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในเว็บที่เป็น http:// ก็ต้องระวังถูกแฮ็กข้อมูลครับ

Something is better than nothing.

มีบ้างดีว่าไม่มีเลย

โภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ

โภชนาการสำหรับผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเพราะระบบต่าง ๆ ในร่างกายผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงตามวัย การรับรู้รสและกลิ่นน้อยลง มีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน การดูดซึมอาหารไม่ดี มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องผูก ทำให้ความอย่ากอาหารลงลงและมีแนวโน้มที่จะขาดสารอาหาร

ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เล่าว่า ความต้องการสารอาหารของผู้สูงอายุ เมื่อเทียบกับวัยหนุมสาวมีความต้องการโปรตีนในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน แต่ควรเป็นเนื้อสัตว์ที่ที่ย่อยง่าย เช่นปลา พยายามหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์เพราะย่อยยากและไขมันสูง ควรหลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์โดยใช้น้ำมันพืชแทน ซึ่งไม่ควรใช้น้ำมันปาล์มหรือน้ำมันมะพร้างเพราะไขมันสูง ส่วนอาหารจำพวกคาร์โบไฮรเดรตน้ำ เป็นสารอาหารที่ผู้สูงอายุควรลดประมาณลงโดยเฉพาะน้ำตาลและขนมหวานต่าง ๆ

ส่วนอาหารที่ให้สารอาหารจำพวกวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งได้จากผักและผลไม้ต่าง ๆ ผู้สูงอายุควรรับประทานให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายและควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว โดยควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในแต่ละวัน ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด รวมทั้งกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอร์

นอกจากนี้ผู้สูงอายุควรดื่มนมชนิดพร่องมันเนยวันละ 1 แล้ว เพื่อเพิ่มแคลเซี่ยมช่วยบำรุงกระดูก ถ้าดื่มนมไม่ได้ควรดื่มนมถั่งเหลืองแทน หรือรับประทานอาหารที่ให้แคลเซี่ยม เช่น เต้าหู้แข็งหรือปลาเล็ก ปลาน้อย ก้างปลากรอบก็ได้เช่นกัน ส่วนอาหารเสริมนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็นของผู้สูงอายุ การรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว

แม่บ้าน
ปีที่ 32 ฉบับที่ 470
ก.ค.51

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

If you don't make mistakes,you don't make anything.

ถ้าคุณไม่ทำอะไรผิด นั่นคือคุณไม่ได้ทำอะไรเลย

เลี้ยงลูกด้ายนมแม่

น้ำนมแม่ เป็นอาหารชนิดที่ดีที่สุดสำหรับลูกและมีสารอาหารครบถ้วย ช่วยกระตุ้นการเจริญเติมโตของสมองและอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งสารอาหารที่ได้รับจากนมแม่ หาไม่ได้ในนมชนิดอื่น ๆ เด็กที่กินนมแม่จึงเจริญเติบโตได้ดีทั้งร่ายกายและสมอง มีผลให้เชาว์ปัญญาดี นอกจากนี้นมแม่ยังมีคุณสมบัติพิเศษ มีสารที่เป็นภูมิต้านทานป้องกันโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น โรคหวัด ปอดอักเสบ โรคลำไส้อักเสบ ทารกจะได้รับภูมิคุ้นกันทันทีตั้งแต่การกลืนนมแม่มื้อแรกและในครั้งต่อ ๆ ไป

จากผลการวิจัยพบว่า ทารกที่ถูกเลี้ยงด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวจะต้องการน้ำนมเฉลี่ยวันละ 25 ออนซ์ (750 มิลลิลิตร) ในช่วงอายุ 1-6 เดือน ทารกแต่ละคนต้องการน้ำนมปริมาณไม่เท่ากัน แต่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในช่วงระหว่าง 19-30 ออนซ์ต่อวัน(570-900 มิลลิลิตรต่อวัน) สมาคมกุมารเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกา ยังออกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการให้นมลูกด้วยว่า ทารกควรจะได้กินนมจากอกแม่จนกระทั่งถึงอายุครบ 1 ขวบ แต่ที่น่าสนในคือ มีคุณแม่เพียง 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถทำได้ โดยสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพเศรฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อมและความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง ฯลฯ

ข้อมูลจาก
แม่บ้าน
ปีที32 ฉบับ 470
ก.ค.51

You can't please everyone.

คุณไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้

สุดยอดอาหารล้างพิษ

สาหร่าย
เป็นพืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้าม คุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ
Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่าสาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกาย

ในปัจจุบันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงรังสีต่างๆ จากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ ซึ่งพลังงานความร้อนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งสาหร่ายจะช่วยดูดซึมคลื่นรังสีเหล่านั้น และสามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก

หัวหอม
ประกอบไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำความสะอาดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
LD ซึ่งไม่ดีเพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคหอบ โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรค เบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่

มะนาว
เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษและทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย

เมล็ดแฟลกซ์
ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น อย่างโอเมกา
3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างการแข็งแรงขึ้น

กระเจี๊ยบ
น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยทำความ สะอาดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้

ทับทิม
ตำราแพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ ว่า การดื่มน้ำทับทิมสามรถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้ เนื่องจากในทับทิมมีสารแอสไพรินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยาแก้ ปวด ช่วยล้าง พิษลด การติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และลดอาการอักเสบ สำหรับผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบ ปวดบวม ช้ำ แนะนำให้กินทับทิม เพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ ขณะเดียวกันยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น

พืชตระกูลถั่ว
(
เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วย พืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย

ขึ้นฉ่าย
ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความ สะอาดเลือดและช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่ายยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควัน บุหรี่ด้วย

แครอท
เต็มไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน (
Alpha and Beta-carotene ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ วิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษใน สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาท สายตา ผิวหนัง ที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำ และจากการวิจัยพบว่าสารในแครอตช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจ และหัวใจแข็งแรงขึ้น

มะเขือพวง
คนไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหารประเภท ผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิ และน้ำพริก สมัยก่อนแกงกะทิเช่นแกงไก่ใส่มะเขือพวงเต็มไปด้วย ใส่ไก่น้อยเน้นการกินมะเขือเป็นหลัก แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าง แกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ และคนก็เลือกกินแต่ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัยก่อน มะเขือพวงเป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของเสีย

ส้มโอ หรือเกรปฟรุต
เป็นผลไม้รสชาติดีที่ได้รับ ความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อ ร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

กระเทียม
จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึง คุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย

บลูเบอร์รี่
เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิแดนต์ สูงมากชนิดหนึ่งและถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

กะหล่ำ
เต็มไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูล อิสระ (
Antioxidant ) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียดที่มีผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี และกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย

บีตรูต
ผักสีแดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้นับเป็นผัก มหัศจรรย์ซึ่งเประกอบไปด้วยไฟโรเคมีคอล (
Phytochemical ) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีตรูตมีคุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ทำความสะอาดตับและระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติพิเศษที่ส่งเสริมให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีตรูตช่วยปรับระดับกรด-ด่าง ในเลือดให้สมดุลด้วย

อะโวคาโด
อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน(
Glutathione ) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ( Universityof Michigan ) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ ได้กิน และมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

ตำลึง
ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้ว หาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อยๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าแกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบ และมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติ ช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึงยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย

แอปเปิล
ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายที่ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเบิลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้

อัลมอนด์
เป็น ถั่วที่มีใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย ในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึง ควรกินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย (
Hyperglycemia ) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย( Hypoglycemia ) จะทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรง คิดอะไรไม่ออก

กล้วย
มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรง แก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกิออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเปลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Every picture tells a story.

ภาพทุกภาพเล่าเรื่องราวได้

สับปะรด ผลไม้หลายตา รสชาติถูกใจ

สับปะรดมีชื่อเรียกหลายชือ ตามแต่ว่าจะเป็นภาคไหนเรียก อย่างเช่น ภาคใต้ก็จะเรียกว่า ขนุนทอง ยานัด ย่านนัด อันนี้ก็แยกแตกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น ส่วนถ้าเป็นภาคอีสานก็จะเรียกว่า บักนัด ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่า บัก ทางภาคอีสานจะใช้เป็นสรรพนามเรียกคุณสุภาพบุรุษ ดังนั้นสับปะรด น่าจะเป็นเพศผู้แน่นอน(ฮาาา) ส่วนภาคเหนือชื่อเรียกก็จะคล้าย ๆ กันคือ มะนัด

สับปะรดเป็นผลไม้ล้มลูกมีอายุหลายปี มีความสูง 90-100 ซม.มีลำต้นอยู่ใต้ดิน มีใบเรียงสลับซ้อนกันถี่มาก รอบ ๆ ต้น กว่าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอก ข่อ ออกจากกลางลำต้น มีคอกย่อยจำนวนมากผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเป็นกระจุกที่ปลายผล ส่วนสารอาหารที่สำคัญก็มีเกลือแร่ วิตามินต่าง ๆ และมีเอนไซม์ย่อยโปรตีนชื่อบรอมิลิน (Bromelin) ช่วยย่อยโปรตีนไม่ให้ตกค้างในลำไส้

ส่วนประโยชน์ของสับปะรดก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะมีมากมายหลายประการ หากท่านมีอาการต่อไปนี้สับปะรดช่วยได้หายห่วง ไม่ว่าจะเป็นหนอง ถ่่ายปัสสาวะไม่ออก ตัวร้อนกระสับกระส่าย การหายน้ำ มีอาการบวมน้ำ เป้นโรคบิด เป็นยาแก้ท้องผูก แก้โรคนิ่ว แถมยังช่วยย่อยอาหารอีกต่างหาก

นอกจากสับปะรดจะนิยมรับประทานเป็นผลไม้ล้างปากหลังอาหารแล้ว ปัจจุบันก็มีผู้นำสับปะรดมาดัดแปลงเป็นอาหารคาวหวานมากมายหลายเมนู ซึ่งก็เป็นที่เอร็ดอร่อยถูกใจคนชิมและคนกินยิ่งนัก

Fruits Super Food
kitty Cat
แม่บ้าน
ปีที่ 32 ฉบับที่ 470
มิ.ย.51

Every man his has price.

คนทุกคนมีค่า

บุหรี่คร่าชีวิตหญิงไทย

ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้แก่ มะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจวาย เส้นเลือดในสมองตีบ โดยผู้หญิงที่สูบบุหรีมีโอกาสเสียชีวิตในวัยกลางคนถึงร้อยละ 50 และมีอายุสั้นลงถึง 10 ปี

รส.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ สาขาวิชาโรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤติ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า ในอนาคตผู้หญิงไทยมีแนวโน้มจะสูบบุหรี่มากขึ้น เนื่องจากบริษัทบุหรี่พยายามที่จะให้กลยุทธ์ในการเพิ่มปริมาณการสูบบุหรีในเพศหญิง นอกจากนี้ผู้หญิงยังมีโอกาศได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสอง โดยเฉพาะจากที่บ้านในครอบครัวที่มีสมาชิกอื่นที่สูปบุหรี จากที่ทำงานหรือในสิ่งแวดล้อมโดยทั่วไปโดยผู้ที่สูบบุหรี่จะมีผลต่อสูขภาพของผู้หญิงและยังมีผลโดยตรงต่อทารกในครรภ์

การสูบบุหรี่จะทำให้ผู้หญิงแก่ก่อนวัย โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและใบหน้ามีรอยย่นมากขึ้น ริมผีปากคล้ำ มีปัญหาโรคช่องปาก และเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ

ผลเสียของการสูบบุหรี่ในผู้หญิง การสูบบุหรี่มีแต่โรครุมเร้าทั้งอวัยวะภายนอกและภายในแก่ก่อนวัยถึง 10 ปี โดยพบว่ามีปัจัยเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดถึง 10 เท่า เสี่ยงกับอาการหัวใจล้มเหลวถึง 2-6 เท่า เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกกว่า 4 เท่า เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 25 เสี่ยงเป็นโรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า อาจเกิดอาการหัวใจวายกะทันหันถึง 20 เท่า รวมถึงผู้หญิงที่สูบบุหรี่และรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ มีโอกาสเกิดอาการเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันหรือหัวใจวานสูงถึง 39 เท่า และมีอัตราการตายสูงกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ที่กินยาคุมกำเนิดถึง 3 เท่า

รู้ไว้ปลอดภัยกว่า
พัชริดาพบหมอ
แม่บ้าน
ปีที่32 ฉบับที่ 470
ก.ค.51

Better know nothing than half-know many things.

การไม่รู้อะไรเลย ดีกว่าการรู้หลายสิ่งหลายอย่างแต่เพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ

น้ำมันมะพร้าว ไม่ไร้ประโยชน์

ข้อเท็จจริงที่โลกต้องตลึง มะพร้าวเป็นพืชใบเลียงเดี่ยว อยู่ในตระกูลปาล์ม ทุกส่วนของมะพร้าวไม่ว่าจะเป็นรา ลำต้น ใบ ดอก ยอด และผล บรรพบุรษของเราได้นำมาใช้ประโยชน์ทุกส่วน ทั้งนำมาทำเป็นที่อยู่อาศัย ทำเครื่องนุ่งห่ม ทำยารักษาโรค และนำมาทำเป็นอาหาร ซึ่งที่เห็น ๆ กันทั่ว ๆ ไป ก็เจ้ากะทิหรือน้ำมันมะพร้าว ที่เรากลัวกันนักหนาและกลัวจนฝังใจว่รับประทานเข้าไปมากจะทำให้อ้วน และไขมันจะอุดตันในเส้นเลือดจนหัวใจขาดเลือด ถ้าหากรักษาไม่ทันอาจถึงตายได้ เพราะกะทิหรือน้ำมันมะพร้าวมีคอเลสเตอรอลในปริมาณที่สูง

กะทิหรือน้ำมันมะพร้าว เป็นอาหารที่ให้สารอาหารประเภทไขมันอิ่มตัว(Saturated Fat) ดังนั้นด้ายสาเหตุจากการกลัวจึงทำให้รับประทานแต่น้อยหรืองดไปเลย แล้วหันไปรับปาะทานน้ำมันพื่ชชนิดอื่นแทน เช่น น้ำมันพืชจากถั่งเหลือง ดอกคำฝอย ตอกทานตะวัน หรือน้ำมันข้าวโพด เพราะให้สารแาหารประเภทไขมันไม่อิ่มตัว (Unsatured Fat)

แต่ปัจจุบันพบว่า กะทิหรือน้ำมันมะพร้าว มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและความงามอีกด้วย เช่น ช่ายในเรื่องของการลดคอเลสเตอรอลชนิดอันตราย(LDL) และเพื่อมคอเลสเตอรอลชนิดดี(HDL) ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีส โปรตัวซัว และไวรัส ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยรักษาผิวไม่ให้กร้านแดด และรักษาผิวที่เหี่ยวย่น เป็นต้น

เรื่องน่ารู้
อ.สุวรรณา ชัยชนะ
แม่บ้าน
ปีที่33 ฉบับที่ 474
พ.ย.51

Write it on your heart that every day is the best of the year.

จงเขียนในหัวใจของคุณว่าทุกวันเป็นวันที่ดีที่สุดของปี

เมลามีน กินไม่ได้..แต่ใส่อาหารได้

เมลามีน เราทุกคนคุ้นเคยกันดี เพราะคนส่วนใหญ่คงเคยใช้ภาชนะพลาสติดที่ทำจากเมลามีนใส่อาหารทั้งที่บ้าน ตามสถานที่ทำงานและใช้กันโดยทั่วไป ลักษณะของเมลามีนเป็นผลสีขาว ไม่ค่อยละลายน้ำ เวลาผสมน้ำจะเป็นสีขาวขุ่นคล้ายนมสด ถ้าว่ากันตามหลักวิชาเคมี "เมลามี"(Melamine) จัดเป็นสารอินทรีย์มีองค์ประกอบคือ ธาตุคาร์บอน(C) ไฮโดรเจน(H) และ ไนโตรเจน(N) ซึ่งมีอยู่สูงถึงร้อยละ 67 ของน้ำหนักทั้งหมด โดยไนโตรเจนนี่แหละเป็นตัวสำคัญเกี่ยวข้องกับปัญหานมผงที่เกิดขึ้น

เมลามีน เมื่อรวมตัวกับสารฟอร์มาลดีโฮด์เป็นพอลิเมอร์ เรียกว่าเมลามีนเรซิน สามารถนำไปผลิตเป็นข้าวของเครื่องใช้หลากหลายชนิด ตั่งแต่พลาสติก จานชามเมลามีน ถุงพลาสติก พลาสติดสำหรับห่ออาหาร นอกจากนี้เมลามีนยังอยู่ในอุตสาหกรรมเม็ดสีเป็นหมึกพิมพ์สีเหลือง นำไปทำน้ำยาดับเพลิงคุณภาพดี น้ำยาทำความสะอาด และปุ๋ย

ความเป็นพิษของเมลามีนเกิดขึ้นได้แม้ยังไม่ได้กินเข้าไป กล่าวคือจะเกิดการระคายเคืองเมื่อสูดดม ถ้าสัมผัสถูกผิวหนังอาจเกิดการอักเสบ เมื่อกินเข้าไปจะสะสมเพราะร่างกายไม่สามารถย่อยสารเมลามีได้ และพยายามขับออกทางระบบปัสสาวะ กลายเป็นนิ่วในท่อปัสสาวะและไต ทำให้เกิดไตวายหรือเกิดมะเร็งที่ท่อปัสสาวะ กลายเป็นนิ่วในท่อปัสสาวะและไต ทำให้เกิดไตวายหรือเกิดมะเร็งที่ท่อปัสสวะได้

การใช้ประโยชน์จากเมลามีน หากใช้ให้ถูกต้อง เมลามีก็จะมีประโยชน์ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับอาหาร โดยทั่วไปเราจะนำเมลามีนเป็นพลาสติกที่ทนความร้อง จึงมีที้งจานชาม สารพัดขนาด ถ้วยกาแฟ ช้อนส้อม เป็นต้น ภาชนะเหล่านี้เป็นทีนิยม เพราะมักมีสีสันลวดลายน่ารักสวยงาม น้ำหนักเบา ไม่ต้องระวังรักษามากเท่าภาชนะที่ทำจากกระเบื้องหรือแก้ว

คุณใช้ภาชนะเมลามีนอย่างถูกวิธีหรือเปล่า กระทรวงสาธารณสุขมีคำเตือนถึงอันตรายของการใชภาชนะเมลามีใสอาหารทีร้อนจัด อาหารที่เป็นกรด และการนำไปช้กับเตาไมโครเวฟ เพราะจะทำให้สารฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้ การใช้ภาชนะเมลามีให้ปลอดภัย อุณหภูมิที่ใช้ไม่ควรเกินระดับประมาณ 60 เงศาเซลเซียส เพราะสารฟอร์มาลดีไฮด์จะแพร่กระจายออกมาไม่เกิน 2 มิลลิกรัม/ลิตร แต่หากจะใช้งานที่อุณหภูมิ 60-69 องศาเซลเซียส ต้องระมัดระวังไม่ควรคงอุณหภูมิสูงไว้นาน และเมื่อใช้เตาไมโครเวฟควรใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 นาที ระดับกำลังไฟฟ้า 900 วัตต์ ดังนี้นจึงไม่ควรนำมาใช้กับเตาไมโครเวฟ หรืออาหารที่มีอุณหภูมิเกิน 100 องศาเซลเซียส เช่น น้ำเดือดจัด ของทอดร้อน ๆ จากกระทะก็ไม่ควรนำมาใส่ภาชนะเมลามีนโดยตรง


อาหารเพื่่อสุขภาพ
ดร.อาณดี นิติธรรมยง
สถาบันวิจัยโภชนาการ ม.มหิดล
แม่บ้าน
ปีที่ 33 ฉบับที่ 474
พฤาจิกายน51

Dead men tell no lies.

คนตายไปแล้วย่อมไม่โกหก

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ดูแลตัวเองกันดีกว่า

ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์ ควรกินเวลา7.00 น. - 9.00 น. เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมากๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนานๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่มปม และนานเข้าๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ

อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วนะ น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสียออกจากร่างกาย อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด

ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด เนื่องจากถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน ถ้าอดนอนเวลานี้บ่อยๆ จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี

ห้ามกินนมตอนเช้าแทนข้าวเช้า เนื่องจากตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนมจะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อยนะจ๊ะ ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า หรือตอนบ่ายไปแล้ว หรือตอนเย็น ดื่มได้ตามปกติจ้า มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่ายๆ อย่างนมกับ ไข่ ก็ไม่ว่ากัน

ถั่วต่างๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง เช่น ลูกเดือย , ข้าวฟ่าง ฯลฯ มีประโยชน์ต่อลำไส้ คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค + แบคทีเรียชนิดไม่ดีออกจากลำไส้เรา ควรกินอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย

พืชผักสีเขียวมีคลอโรฟิว ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี เซลล์แต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ก่อนเอาผักมากินเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืม แช่น้ำ ส้ม สายชู 45 นาทีนะ

ขอให้ถนอมสุขภาพร่างกายของเราให้ดีกันทุกคนนะ

ศูนย์สุขภาพ
Diet@home

โรคภูมิแพ้

ภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้เกิดอาการเมื่อสัมผัสหรือสูดดมสารก่อภูมิแพ้ โดยมีปัจจัยส่งเสริม คือ สภาวะแวดล้อม โดยเฉพาะสภาวะพิษทางอากาศที่นับวันจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ จากสถิติพบว่า เด็กไทยที่อาศัญอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครฯมีอาการเจ็บป่วยจากโรคภูมิแพ้เป็นจำนวนมากขึ้นทุกปี

โรคภูมิแพ้นอกจาจะทำให้เกิดอาการผิดปกติแล้ว ยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาอีก เช่น ไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก หอบหืด หลอดลมอักเสบเรื่้อรัง ทองซินอักเสบเรื้อรัง หรือทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพการนอน หัวใจ และสมอง ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้มีอาการภูมิแพ้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการรักษา เพราะอาจทไให้เกิดโรคอื่นแทรกซ้อนได้

การรักษา โรคภูมิแพ้ที่ดีที่สุดยังมุ่งเน้นไปที่การป้องกันด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง หรือหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และมลภาวะต่าง ๆ แต่หายังคงมีอาการอยู่ แพทย์จะพิจารณาใช้ยาแก้แพ้ สเตอรอยด์พ่นจมูก หรือฉีดวัคซีนภูมิแพ้ เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวให้ดีขึ้น


พญ.วิลาวัณย์ เวทไว
โรงพยาบาลพระรามเก้า

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เรื่องของกาแฟที่คุณอาจยังไม่รู้

การดื่มเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ชา น้ำอัดลม หรือโกโก้ต่างมีสาร "คาเฟอีน"ซึ่งจะมีปริมาณมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเครื่องดื่มแต่ละชนิด แต่เพื่อสุขภาพของคนชอบเครื่องดื่มที่มีรสชาติและสีสันพิเศษเหล่านี้ เราได้รวบรวมเรื่องราวของกาแฟที่คุณอาจจะยังไม่รู้ที้ง 2 ด้านมาฝากกัน

ด้านดี ๆ ที่คุณต้องรู้
-"คาเฟอีน"เป็นสารกระตุ้นประสาท ดังนั้นผู้ที่ดื่มก็จะมีความรู้สึกตื่นตัว ไม่ค่อยง่วง คนที่ต้องทำงานดึก ๆ หรือดูหนังสือดึก ๆ ก็อาจจะใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มความทนทานในการอยูุ่ดึก
-ในชา โดยทั่วไปจะมีสาร anti-oxidant ซึ่งพบว่าสามารถช่วยป้องกันเซลล์เนื้อเยื่่อของร่างกายให้มีโอกาสเกิดมะเร็งน้อยลง ในกาแฟเองก็มีเช่นกันแม้ว่าจะไม่มากก็ตาม
-โรงสมองเสื่อม พาร์กินสัน (Parkinson's disease) มีการศึกษาหลายชิ้นทำในผู้ชายสูงอายุส่วนใหญ่ พบว่ากาแฟลดความเสี่ยงในการเกิดโรงสมองเสื่อมชนิดนี้ได้ แต่ก็มีชิ้นหนึ่งที่ทำในหญิงพบว่า หากดื่มกาแฟ 1-3 ถ้วย สามารถลดอุบัติการณ์ในการเกิดได้ 50 เปอร์เซนต์ โดยที่หากดื่มมากกว่านี้ไม่ได้ประโยชน์เพิ่มเติม
-การดื่มกาแฟในปริมาณไม่มาก(ไม่เกิน 2 ถ้วยต่อวัน ประมาณ 100-200 มิลลิกรัม) ไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะกระดูกบาง ถ้าดื่มนมอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว โดยเฉพาะผู้หญิงที่ดื่อมการแฟควรได้ปริมาณของแคลเซียมอย่างเพียงพอ (1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน)
-สมาคมมะเร็งแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาสรุปว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของคาเฟอีน ไม่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งแต่อย่างใด

ข้อควรระวังที่ต้องจำไว้
-หากเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับ คาเฟอีนจะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เรามีปัญหาเรื่องการนอนมากขึ้น
-การดึ่มกาแฟเพียงแก้วเดียวก็อาจจะเกิดอาการใจเต้นเร็วหรือในสั่นได้ เนื่องจากมีประมาณคาเฟอีนที่สูงกว่าที่เคยได้รับมาก่อน คนที่ไวต่อคาเฟอีนและมีโรคหัวใจเต็นผิดปกติไม่ควรดื่ม
-น้ำมันกาแฟ (coffee oil,kahweol และ cafestol) ทำให้ระดับของโคเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นได้ แต่การใช้กระดาษกรองในการต้มกาแฟจะสามารถจับสารพวกนี้ได้
-การดื่มเครื่องดื่มกลุ่มดังกล่าว โดยทั่วไปมักจะมีการผสมด้วยน้ำตาลเป็นหลัก ดังนั้นปัญหาที่ตามมาคือ เรื่องของระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งต้องระวังในคนใข้โรคเบาหวาน และปัญหาเรื่องของน้ำหนักตัว ซึ่งหากน้ำหนักมาก ๆ ปัญหาเรื่องดรงไขข้อก็จะตามมา

HealthToday Special
No.2 Foodiscovery

วิตามินที่มีประโยชน์ในการสร้างกระดูก

แคลเซียม เป็นแต่ธาตุที่พบมากที่สุดในร่างกาย โดยร้อยละ 99 ของแคลเซียมทั้งหมดจะอยู่ในกระดูกและฟัน ส่วนที่เหลือจะอยู่ในกระแสเลือดและเซลล์ต่าง ๆ ดังนั้นเพื่อลดอัตราการสลายตัวของกระดูกโดยเฉลี่ยผู้ใหญ่ทั้วไปควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,200 มิลลิกรัม และสำหรับผู้สูงอายุ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินที่มีประโยชน์ในการสร้างกระดูก
วิตามินเค มีการศึกษาพบว่าวิตามินเคมีบทบาทสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียมในกระแสเลือดมาใช้ในการสร้างกระดูก หากร่างกายได้รับวิตามินเคอย่างเพียงพอทุกวัน พร้อม ๆ กับแคลเซียมก็จะช่วยเพิ่มมวลกระดูกให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ชะลอการสลายของเนื้อกระดูกให้ช้าลงได้
เราสามารถได้รับวิตามินเคจากอาหารต่าง ๆ เช่น ผักกะหล่ำปลี ผักบุ้ง บรอกโคลี ต้นหอม ผักใบเขียวต่าง ๆ ถั่งเหลือง ถั่วหมัก เต้าเจี้ยว น้ำมันพืช ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม โดยเฉพาะสมัยนี้มีนมชนิดแคลเซียมสูงที่เสริมด้วยวิตามินเค เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการป้องกันโรคกระดูกพรุนตั้งแต่เนิ่น ๆ

วิตามินดี เป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซับแคลเซียมจากอาหารได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยให้กล้ามเนื้อเราทำงานได้ดีควบคุมการทรงตัวไม่ให้ล้ม โดยแหล่งวิตามินดีที่สำคัญและง่ายที่สุดคือ แสงแดด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายจึงมักแนะนำให้คนเราเดินเล่น หรือออกกำลังกายในช่วงเวลาที่มีแดดอ่อน ๆ เช้าหรือเย็น รวมทั้งการกินอาหารที่มีวิตามินดี อย่างเช่น นม ปลาแซลมอน หรือกุ้ง เป็นต้น

วิตามินซี เป็นที่รู้จักดีว่าเป็นวิตามินที่มีบทบาทในการสร้างเนื้อเยื่อโครงสร้างอันเป็นที่อยู่ของแคลเซียม เช่น กระดูกและฟัน วิตามินซี มีมากในผัก ผลไม้ที่มีรสเปรียว รวมทั้ง นม นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงอาหาร เครื่องดื่มและพฤติกรรมบางอย่างที่เป็นภัยต่อกระดูก เช่น การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ รวมทั้งอาหารเค็ม ๆ ที่มีเกลือโซเดียมมากไป ซึ่งจะทำให้ร่างกายไม่สามารถนำแคลเซี่ยมมาใช้ได้เต็มที่

เรียบเรียงโดย g-one
ข้อมูลจาก
HealthToday Special
No.2 Foodiscovery