วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

5 ขั้นตอนการดูแลเท้าให้สุขภาพดี

เท้าเป็นอวัยวะที่รับน้ำหนักของร่างกายและยังบอกถึงสุขภาพร่างกายองมนุษย์ได้ การดูแลเท้าให้สะอาดและผ่อนคลายเป็นสิ่งสำคัญซึ่งสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 :

เทน้ำอุ่นลงในอ่างแช่เท้า หยดน้ำมันลาเวนเดอร์ลงไป 2 – 3 หยด หรือ

แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ หากคุณทาเล็กเท้าให้ล้างน้ำยาทาเล็บออก

ขั้นตอนที่ 2 :

แช่เท้าประมาณ 10 นาที เช็ดเท้าด้วยผ้าขนหนูสะอาด

ขั้นตอนที่ 3 :

ตัดเล็บเท้า แต่อย่าตัดจนสั้นเกินไป และตัดเล็บให้เรียบเสมอกัน

ขั้นตอนที่ 4 :

ทามอยส์เจอไรเซอร์ที่เท้าและเล็บ โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังรอบๆ เล็บเท้า

ขั้นตอนที่ 5 :

นวดให้ทั่วบริเวณเท้าประมาณ 5 – 10 นาที

ที่มา : http://tips4cute.blogspot.com/2010/10/5.html

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวมาจากไหน

เป็นเรื่องที่น่าสนใจเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จะต้องมีเรื่องราวความเป็นอย่างแน่นอนที่สุด นั่นก็เนื่องจากว่าก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่อาหารของคนไทยมาก่อน ไม่ใช่น้ำพริกกะปิ ไม่ใช่แกงส้มมะละกอกุ้ง ไม่ใช่แกงเลียง ไม่ใช่ต้มกะทิสายบัว อันเป็นอาหารดั้งเดิมเก่าแก่ของชาวบ้านคนไทยทั้งหลาย

ในสมัยก่อนนั้น ตั้งแต่ยุคสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กษัตริย์แห่งสยามประเทศผู้เปรื่องปราชญ์ในการเมือง ผู้ที่รงปรีชาสามารถในด้านการต่างประเทศ สามารถติดต่อกับต่างชาติได้มากมาก สร้างความเจริญให้กับสยามประเทศได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการฟื้นฟูให้ลพบุรีเป็นพระนครที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเคยยิ่งใหญ่มาแล้วในยุคสมัยก่อนที่เคยเป็นเมืองของพวกมอญมาช้านาน พระองค์จึงสร้างเมืองลพบุรีเป็นเมืองหลวงเมืองที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2208 แยกออกมาจากกรุงศรีอยุธยาที่อยู่ใกล้ทะเลเกินไปนั่นเอง เกิดกรณีพิพาทกับต่างชาติแล้วก็ทำให้ยกกองทัพเรือมาปิดปากอ่าวของไทยได้ง่าย ฮอลันดาเคยยกกองทัพเรือมาปิดล้อมปากอ่าวไทยครั้งหนึ่ง ในเรื่องความไม่พอใจในกิจการค้า เพราะไทยเราค้าขายได้กับหลายชาติอย่างกว้างขวางนั่นเอง

ชนชาติต่างๆ ที่ดำเนินการค้าร่วมกันนั้น มีชนชาวจีนรวมอยู่ด้วยแน่นอน ไม่ใช่มีเพียงฝรั่งมังค่าในยุโรปเท่านั้น มีการส่งราชทูตไปเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ฝรั่งเศสเพื่อสัมพันธไมตรี ทำให้ต่างชาติอื่นๆ มองเห็นว่าไทยเราก็มีสัมพันธมิตรอย่างฝรั่งเศสเพื่อสัมพันธมิตรอย่างฝรั่งเศสด้วย สร้างความน่าเกรงขามและความเกรงใจได้ เป็นกลวิธีที่เป็นยอดของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมาก สิ่งนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าชื่นชม เมื่อชาวจีนเอาเรือสำเภาแล่นใบมาจากเมืองจีนอย่างนี้ นำสินค้าจากเมืองจีนมาด้วย เอามาแลก เอามาขาย ให้แก่คนไทยที่ลพบุรี สินค้าก็มีหลายอย่าง ทั้งแพรพรรณ ของกิน ของใช้ แล้วก็มีการเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวมาด้วยในเรือสำเภานี้เอง

คนจีนเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวมาปรุงเป็นอาหารกินกันอย่างธรรมดาแต่เมื่อคนไทยเห็นเข้าก็แปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนนั่นเอง คนจีนนี่เองที่เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่เรือสำเภามาจากเมืองจีน เอามาต้มเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำกันอย่างเอร็ดอร่อย เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวมาต้มกับน้ำซุป ใส่หมู ใส่ผักบางอย่าง ซึ่งน่าจะยังไม่เหมือนกันอย่างในทุกวันนี้

ใส่ซีอิ้ว ใส่เกลือ ใส่เต้าหู้ยี้ ใส่ผักกาดดองแล้วเอามากินกันอย่างแปลกหูแปลกตาคนไทยในยุคสมัยนั้นอย่างที่สุดจริงๆ มีการเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวของคนจีนมาประกอบอาหารบริโภคกันบ้าง จึงสร้างความคุ้นเคยให้คนไทยเราในสมัยนั้นไปเรื่อยๆ แล้วคนจีนก็เอาแป้งข้างเจ้ามาทำเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวอีกในเวลาต่อมา เส้นก๋วยเตี๋ยวจึงแพร่หลายมาเรื่อยๆ จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไป เมื่อใครเอ่ยถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาทุกคนก็จะรู้จักเป็นอย่างดี

http://noodle-dee.blogspot.com/2010/10/blog-post_14.html

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เลือกสไตล์ทรงผมให้รับกับรูปหน้า

การเลือกสไตล์ทรงผมให้เหมาะกับรูปทรงของใบหน้านั้น เป็นการเสริมบุคลิกภาพ ให้คุณดูดีขึ้น และที่น่าสนใจมากขึ้น

รูปหน้าเหลี่ยม

ควรไว้ผมยาวประบ่าและดัดให้เป็นลอนคลื่นเล็กน้อย หลีกเลี่ยงทรงผมบ๊อบหรือผมหน้าม้า

รูปหน้าไข่

คุณเกิดมาโชคดีที่มีหน้ารูปไข่ เพราะเป็นรูปหน้าที่เหมาะสมกับทุกสไตล์ทรงผมจึงเลือกได้ทุกสไตล์ที่ชอบ

รูปหน้าทรงกลม

เพื่อทำให้รูปหน้าดูเล็กลง ควรเลือกทรงผมที่ซอยไล่ระดับแก้มจนถึงต้นคอ หลีกเลี่ยงการทำผมหยิกดัด

รูปหน้าเรียวยาว

ควรเลือกทรงผมสั้น หน้าม้าหรือทรงบ๊อบ เพื่อให้ระดับใบหน้าสมดุลกัน ผมยาวตรงไม่เหมาะสมกับคนรูปหน้ายาว

ที่มา : http://tips4cute.blogspot.com/2010/10/blog-post_15.html

สร้างทัศนคติที่ดี

สร้างทัศนคติที่ดี

การดำรงชีวิตให้มีความสุข จงนำทัศนคติที่ดีมาใช้ในการดำเนินชีวิต อันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเกิดความแตกต่างในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการทำงาน ซึ่งความสำเร็จได้มาจากทักษะในชีวิตประจำวัน ผลที่ได้รับก็คือชีวิตมีความสุขและพรั่งพร้อมไปด้วยความรัก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเราเองเป็นผู้กำหนดและทำตามทัศนคติที่เราตั้งไว้ ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ทัศนคติด้านความต้องการที่จะดำรงชิวิตให้สมบูรณ์แบบ เราจะค้นพบอำนาจอย่างหนึ่งที่มั่งคั่งในชีวิตและหน้าที่การงาน เช่นเดียวกับบทกวีของเฮนรี่ทีว่า ข้าพเจ้าเป็นนายแห่งชะตาชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นกัปตันแห่งวิญญาณของข้าพเจ้า เขาบอกให้เรารู้ว่าเราเป็นเจ้านายชะตาชีวิตของเราเองเพราะเราอยู่ด้วยในความควบคุมของทัศนคติของเรานั่นเอง

หลายต่อหลายคน ต่างบอกว่า ทัศนติเป็นได้ทั้งการสร้างสรรค์และทำลาย ซึ่งเราสามารถแปรความคิดเหล่านั้นโดยการมีทัศนคติที่ดี และเราต้องเป็นคนมีความเมตตา หากทำได้เราก็จะประสบความสำเร็จแต่หากเราประเมินค่าทัศนคติทีดีต่ำไป มองในแง่ลบหรือเราไม่ยอมรับสิ่งเหล่านั้น ความสำเร็จก็จะไม่มีวันให้เราได้ชื่นชม

นี่คือส่วนหนึ่งของแบบทดสอบเกี่ยวกับทัศนคติของดัวท่านเองและบ่อยครั้ง ที่เราต้องเจอ และหากเป็นอย่างนั้นเรจะยอมรับหรือแก้ไขอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น

ข้าพเจ้ามีทัศนคติอย่างไรกับตัวเอง

ข้าพเจ้ามีทัศนคติต่อเพื่อนร่วมงานอย่างไร

สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการมากที่สุดคืออะไร

โดยรวมแล้วบุคลิกของข้าพเจ้าเป็นอย่างไร

ข้าพเจ้าสนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ

ข้าพเจ้ามีความถนัดหรือชอบในเรื่องใดเป็นพิเศษ

ข้าพเจ้าชอบอ่านหนังสือแนวไหนมากที่สุด เพราะอะไร

ข้าพเจ้าชอบดูหนัง ละครแนวไหนมากที่สุด เพราะอะไร

ข้าพเจ้าชอบฟังเพลงแนวไหนมากที่สุด เพราะอะไร

ข้าพเจ้าเป็นคนชอบทอล์กโชว์ ละครเวทีบ้างหรือเปล่า

ข้าพเจ้าชอบท่องเที่ยวประเภทไหน และที่เที่ยวที่ชอบเพราะอะไร

ข้าพเจ้าชอบทำงานอะไรมากที่สุด

ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นในรื่องลี้ลับหรือเปล่า

แบบทดสอบนี้คือสิ่งที่ต้องการรู้ว่าตัวตนของเราเป็นเชี่นไร เรามีทัศนคติอย่างไร และหากสิ่งที่เราเจอแล้วไม่มีในแบบทดสอบเราจะมีวิธีแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าอย่างไร

ก่อนอื่นเราต้องเป็นคนรอบคอบ มีความตั้งใจ และที่สำคัญเราจะต้องมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งรอบข้างแล้วความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินความตั้งใจ

ที่มา : http://goal-target.blogspot.com/2010/10/3.html

การจัดแต่งตู้ปลา

เมื่อได้ทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับตู้ปลาแล้ว ก็ถึงตอนที่จะจัดแจงแต่งตู้ปลาจริงๆ ก่อนที่จะนำปลามาเลี้ยงทั้งนี้พึงเข้าใจว่าเราจะเลี้ยงปลาตู้น้ำจืดให้ถูกต้องตามหลักวิชา หาใช่เลี้ยงอย่างส่งเดชไม่ การเลี้ยงอย่างส่งเดชก็คือมีตู้ มีน้ำ แล้วก็เอาปลามาใส่ ช้อนลูกน้ำให้ปลากิน เท่านั้นเอง ไม่ช้าก็เบื่อหรือไม่เกิดความเพลิดเพลินอย่างแท้จริง

ในการเลี้ยงอย่างถูกหลักวิชานั้นท่านจะต้องจัดแต่งตู้ปลาให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วจึงจะซื้อหาปลามา นี่เป็นขั้นตอนที่ท่านจะต้องปฏิบัติ การบรรยายกว้างๆ ตามแนวทางที่พึงเป็น แต่ในการจัดแต่งจริงท่านจะยักเยื้องอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ขอให้ปฏิบัติตามแนวการบรรยายก็แล้วกัน

ขั้นแรกท่านจะต้องยาตู้ปลาให้มั่นคง อย่าให้มีทางที่น้ำอาจซึมออกมาข้างนอกได้ ทำฝาครอบให้พอดีกับขนาดของตู้พร้อมด้วยหลอดไฟฟ้าที่บรรจุเพื่อให้แสงสว่างตามแนวทางที่บรรยายมาแล้ว

อุปกรณ์และเครื่องมือที่จะใช้ควรจัดหาให้พร้อม สำหรับเครื่องมือก็มีไขควงเล็กๆ คีม กรรไกรตัดโลหะ กากเพชรตัดแก้วค้อนเล็กๆ เครื่องมือเหล่านี้อาจนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด แต่ก็ควรจัดหาเตรียมไว้เผื่อใช้

ขั้นต่อไปต้องล้างกรวดที่จะดาดพื้นตู้เสียก่อน หินที่จะใช้ประดับตู้ควรเลือกให้ได้ขนาด ถ้าใหญ่เกินไป เราอาจใช้ค้อนแล่งให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ ถ้าต้องการให้มีโพลงมีหลืบก็ยาหินให้เป็นรูปตามต้องการเสียก่อน ส่วนพืชที่จะแต่งตู้จัดไว้เป็นพวกๆ โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่เปียกชุ่มห่อคลุมไว้เพื่อไม่ให้เฉาเสียก่อนที่จะใช้

http://fishes-lover.blogspot.com/2010/10/blog-post_13.html

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

โรคเบาหวาน (2)

โรคแทรกซ้อนเฉียบพลัน ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ขึ้นกับระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน และสามารถทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหากไม่ได้รับการแก้ไขแต่รักษาให้หายและป้องกันการกลับเป็นซ้ำได้ ภาวะแทรกซ้อนชนิดเฉียบพลันแบ่งออกได้เป็น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลัน และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเฉียบพลัน

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลัน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1. ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและมีกรดคีโตนคั่ง (Diabetic ketoacidosis : DKA) เป็นภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดจากการขาดอินซูลิน โดยอาจมีปัจจัยกระตุ้นจากการได้รับอินซูลินไม่เพียงพอ หรือขาดยา บางครั้งพบเป็นอาการแรกเริ่มของการเป็นเบาหวาน และพบได้ประปรายในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่รุนแรงกว่าขั้นแรกจะมีปัจจัยกระตุ้นจากภาวะเครียดจากการเจ็บป่วย ได้แก่ มีไข้ติดเชื้อ เมื่ออินซูลินไม่พอร่างกายจึงเผาผลาญไขมันเป็นพลังงานเกิดการสร้างคีโตนซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดทำให้ร่างกายมีภาวะเป็นกรดในเลือดสูงขึ้น โดยปกติภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและมีกรดคีโตนคั่งนี้จะมีระดับน้ำตาลในเลือดเกิน 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตรเกลือแร่ไบคาร์บอเนตต่ำกรดในเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย กระหายน้ำ ปัสสาวะมาก หายในหอบลึก หากเป็นมากอาจไม่รู้ตัว หมดสติ และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

2. ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมากและโดยไม่มีกรีดคีโตนคั่ง(Hyperglycemic Hyperosmolar state : HHS) มักพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดนี้ เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้ร่างกายยังพอสร้างอินซูลินได้ ทำให้เกิดการสลายไขมันจนเกิดภาวะกรดในเลือดสูง แต่ก็ไม่เพียงพอในการลดระดับน้ำตาล ทำให้ปัสสาวะบ่อย ทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงมากเกิน 600 มิลลิกรัม/เดซิลิตร มีอาการสับสน ซึมลง จนอาจไม่รู้สึกตัวและหมดสติได้เช่นเดียวกัน พบภาวะขาดน้ำอย่างมาก จนปากแห้ง ตาลึก ความดันอาจต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว ควรได้รับการรักษาโดยด่วน

ปัจจัยก่อเหตุ

สาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งหรือสาเหตุร่วมกันของปัจจัยดังกล่าวต่อไปนี้ อาจนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลันได้

- คุมเบาหวานไม่ดี

- การได้รับยารักษาเบาหวานได้ขนาดที่น้อยไป ฉีดอินซูลินไม่สม่ำเสมอ หรือขาดยา

- ติดเชื้อ เป็นปัจจัยกระตุ้นที่พบได้บ่อย

- มีการเจ็บป่วยรุนแรง เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรือแตก เป็นต้น

- ร่างกายไม่สามารถตอบสนองได้อย่างหมาะสมต่อยารักษาเบาหวานที่ทานเข้าไป

- ทานอาหารจำพวกแป้งหรือน้ำตาลมากเกินไป

- มีความเครียดมาก

- ได้รับยาที่มีผลทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น ลดการตอบสนองต่ออินซูลิน เช่า ยาสเตียรอยด์ ยาขับปัสสาวะ

ป้องกันและแก้ไข

- รับประทานยา หรือฉีดอินซูลินตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด อย่าหยุดยาเองโดยเด็ดขาด

- ควบคุมอาหารอย่างต่อเนื่องและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

- เมื่อมีอาการเตือน เช่น กระหายน้ำมาก ปัสสาวะมากผิดปกติ ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ และตรวจระดับน้ำตาลด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว เพื่อปรับระดับยาฉีดอินซูลินตามระดับน้ำตาลในเลือด

- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ

- ลดความเครียดลง ด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ดูละคร ฟังเพลง นั่งสมาธิ ฯลฯ

- ใส่ใจและจัดการกับอาการป่วย หรืออาการติดเชื้อทันทีที่รู้สึกว่าเป็น ห้ามซื้อยาทานเองและต้องบอกแพทย์ว่าเป็นเบาหวาน

- ถ้ามีอาการกระตุกเฉพาะที่หรืออาการซึม และมีระดับน้ำตาลในเลือดมาก ควรพบแพทย์ทันที

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ(Hypoglycemia)

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (ต่ำกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร) เกิดจากความไม่สมดุลระหว่างการรับประทานอาหารกับระดับอินซูลิน หรือยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าระดับน้ำตาลลดต่ำมากอาจมีความรุนแรงถึงขั้นหมดสติหรือเสียชีวิตได้ เกิดได้ทั้งในผู้ป่วยเบาหวานใช้ยา ไม่ว่ายาเม็ด หรือยาฉีดอินซูลิน ทั้งใช้ยาผิด หรือขนาดยามากเกินไป หรือยาเท่าเดิมแต่อดอาหารผิดเวลาหรืออกกำลังกายมากเกินไปโดยไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า อาการน้ำตาลต่ำนี้อาจเป็นนานหลายวันขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่ใช้

อาการมีตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงหมดสติ หรือชัก ขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลที่ลดลงและอัตราความเร็วในการลดลง เริ่มต้นจะมีอาการใจสั่น ตัวเย็น หน้าซีด คล้ายจะเป็นลม ตามัว หิวมาก มือสั่น ปวดศีรษะ เหงื่อออก หงุดหงิด ปากชา สูญเสียสมาธิ สับสน ซึม ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอาจเป็นลมหมดสติหรือชักได้ ถ้าเป็นตอนกลางคืนขณะหลับอาจมีอาการฝันร้าย นอนกระสับกระส่าย ปวดศีรษะหรือมึนงงในตอนเช้า

วิธีป้องกัน

- ต้องรู้จักอาการและอาการแสดงของภาวะน้ำตาลต่ำ เพื่อระมัดระวังเตรียมตัวแก้ไข

- ทานอาหารให้เป็นเวลา ในปริมาณอาหารที่ใกล้เคียงกันทุกวัน

- ควรมีลูกอม น้ำตาลก้อน หรือน้ำผลไม้พกติดตัว

- ห้ามอดอาหาร โดยเฉพาะมื้อหลัก

- รองท้องด้วยของว่าง หรือดื่มนม ถ้าจำเป็นต้องเลื่อนเวลาอาหารออกไป

- ทานอาหารว่ารองท้องประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนออกกำลังกายที่หนักๆ หรือนานๆ

- ทานยา หรือฉีดอินซูลินตามแพทย์สั่ง ทั้งปริมาณยาและเวลา

- ปรึกษาแพทย์กรณีที่ต้องการทานยารักษาโรคอื่น ร่วมกัน

- ตรวจน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ

- ควรรีบบอกแพทย์ทันที เมื่อมีภาวะน้ำตาลต่ำ เพื่อให้แพทย์ปรับขนาดอินซูลิน

- ไม่ออกกำลังกายหักโหม อดนอน หรือทำงานหนักมากกว่าปกติ

การแก้ไขเบื้องต้น

- ถ้าอาการไม่มาก และเกิดขึ้นใกล้เวลาอาหาร รีบทานอาหารทันที หรือทานของว่าง เช่นขนมปัง นม ผลไม้รสหวานก่อน

- หากอาการค่อนข้างมาก แต่ยังรู้สึกตัว ควรทานอาหารจำพวกแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรตซึ่งดูดซึมเร็วปริมาณ 15 กรัม อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น ดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือน้ำผลไม้ ประมาณ ½ - 1 แก้ว น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะละลายน้ำ 100 ซีซี ลูกอม 1-2 เม็ด หรือน้ำตาลประมาณ 2 ก้อน

- อาการควรจะดีขึ้นภายใน 5 – 10 นาที แล้วรีบรับประทานข้าว หรืออาหารประเภทแป้งทันที

- ถ้าหลังจากได้รับน้ำตาล 15 – 20 นาที ผ่านไปแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรตรวจน้ำตาลด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลทันที ถ้ายังต่ำควรทานของหวานซ้ำอีกครั้ง

- ไม่ควรทานของหวานมากเกินกว่าที่แนะนำ เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลสูงมากไปและทำให้คุมได้ยาก น้ำหนักตัวลงยากด้วย

- แต่ถ้าไม่รู้สึกตัว หมดสติ ผู้ใกล้ชิดควรใส่น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ใต้ลิ้น และรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ห้ามให้ลูกอม หรือดื่มน้ำหวานเพราะทำให้สำลัก

- เมื่อเกิดระดับน้ำตาลในเลือดต่ำขึ้นแล้ว อย่าวางใจว่าสามารถดูแลตัวเองได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลเพื่อปรับขนาดยา จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดอาการซ้ำๆ