Admission ที่เราเรียกกันติดปาก จริงๆก็คือ ระบบกลางการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (CentraI University Admissions System : CUAS) ที่ใช้ทำการคัดเลือกบุคคล (น้องๆนักเรียน) เข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา เริ่มใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 แทนการสอบเอ็นทรานซ์ในสมัยก่อนนั่นเอง
ปัจจุบัน การสอบ Admission ปีการศึกษา 2553 นี้ ได้มีเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปอีก ในปี้นี้องค์ประกอบหลักๆที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย มีดังนี้
1) GPAX 6 ภาคเรียน | 20 % |
2) O-NET (8 กลุ่มสาระ) | 30 % |
3) GAT | 10-50 % |
4) PAT | 0-40 % |
รวม | 100 % |
GPAX ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร มัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า คือ คะแนนเฉลี่ยระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ใช้ในระบบแอดมิชชั่น GPAX จะคิดค่าเฉลี่ยรวมของทุกภาคเรียนครั้งเดียวตั้งแต่ม.4-6 โดยไม่แบ่งเป็นเทอมหรือภาคการศึกษา ไม่ได้คิดผลการเรียนเฉลี่ยเป็นรายวิชา คิดผลการเรียนของทุกวิชาพร้อมกัน
O-NET (Ordinary National Educational Test) เป็นการสอบวัดความความรู้ขั้นพื้นฐานใน 6 ภาคการศึกษาของนักเรียน ชั้น ป.3 ป.6 ม.3 และ ม.6 ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย 8 กลุ่มวิชา สำหรับผู้ที่จะจบ 1 ช่วงชั้น เท่านั้น ผู้เข้าสอบจึงหมายถึง นักเรียน ชั้น ป.3 ป. ม.3 และ ม.6 วิธีการ นักเรียนไม่ต้องสมัคร ทุกคนมีสิทธิ์สอบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย โรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการ
GAT (General Aptitude Test) หรือความถนัดทั่วไป คือ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ แยกได้ 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และแก้โจทย์ปัญหา 50%
ส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ 50%
PAT (Professional and Academic Aptitude Test) หรือความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ คือ ความรู้ที่เป็นพื้นฐานที่จะเรียนต่อในวิชาชีพนั้น ๆ กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้นๆ ประสบความสำเร็จ มี 7 ประเภท คือ
PAT 1 ได้แก่ ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ความรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ พีชคณิต เรขาคณิต Calculus สถิติ ฯลฯ
2. ความถนัดในการเรียนคณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ เช่น การคิดแบบนักคณิตศาสตร์ การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ การอ่านเรื่องทางคณิตศาสตร์แล้วเข้าใจแก้ปัญหาตามกระบวนการคณิตศาสตร์ เป็นต้น
PAT 2 ได้แก่ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ที่จะเรียนในคณะวิทยาศาสตร์และคณะอื่นที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ความรู้ในเรื่องเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ earth science, ICT เป็นต้น
2. ความถนัดในการเรียนวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยประสบผลสำเร็จ เช่น การคิดแบนักวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
PAT 3 ได้แก่ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เป็นต้น
2. ความถนัดในการเรียนวิศวกรรมในมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จ เช่น การคิดแบบวิศวกร การแก้ปัญหาทางวิศวกรรม เป็นต้น
PAT 4 ได้แก่ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปกรรม ฯลฯ
2. ความถนัดในการเรียนในคณะสถาปัตย์ในมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จ เช่น การมองเห็นภาพ 3 มิติในใจ และการออกแบบ ฯลฯ
PAT 5 ได้แก่ ความถนัดทางครู ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ฯลฯ
2. ความถนัดในการเรียนในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์สำเร็จ หรือแววในการจะเป็นครู เช่น ความสามารถในการแสวงหาความรู้ ทักษะสื่อสารรู้เรื่อง ฯลฯ
PAT 6 ได้แก่ ความถนัดทางศิลปะ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ความรู้ในทฤษฎีทัศนศิลป์ นาฏศิลป์ ดนตรี และความรู้อื่นที่เป็นพื้นฐานที่จะเรียนในคณะศิลปกรรมหรือที่เกี่ยวข้องประสบความสำเร็จ
2. ความถนัดในการเรียนศิลปะ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
PAT 7 ได้แก่ ความถนัดในการเรียนภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ความรู้เรื่องไวยากรณ์ หลักภาษา วรรณกรรม วรรณคดี ฯลฯ
2. ความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน สรุป ย่อความขยายความ สังเคราะห์ วิเคราะห์ ฯลฯ
PAT 7 มี 6 ภาษา คือ
ก) ภาษาฝรั่งเศส
ข) ภาษาเยอรมัน
ค) ภาษาญี่ปุ่น
ง) ภาษาจีน
จ) ภาษาบาลี
ฉ) ภาษาอาหรับ
กลุ่มที่ | กลุ่มสาขาวิชา | GPAX | O-NET | GAT | PAT | รวม |
1. | กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ | 20% | 30% | 20% | P2 30% | 100% |
1.2 ทันตแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ | 20% | 30% | 30% | P2 20% | 100% | |
2. | กลุ่มวิทยาศาสตร์กายภาพ 2.1 วิทยาศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ เทคโนโลยีสารสนเทศ | 20% | 30% | 10% | P1 10% | 100% |
3. | กลุ่มวิศวกรรมศาสตร์ | 20% | 30% | 15% | P2 15% | 100% |
4. | กลุ่มสถาปัตยกรรมศาสตร์ | 20% | 30% | 10 % | P4 40% | 100% |
5. | กลุ่มเกษตรศาสตร์ เกษตรศาสตร์ อุตสาหกรรมเกษตร วนศาสตร์เทคโนโลยีการเกษตร | 20% | 30% | 20 % | P1 10% | 100% |
6. | กลุ่มบริหาร พาณิชยศาสตร์ การบัญชี การท่องเที่ยวและโรงแรม และเศรษฐศาสตร์ | 20% | 30% | 30 % |
| 100% |
6.2 การท่องเที่ยว และโรงแรม แบบที่ 1 แบบที่ 2 |
|
| 50 % 40% |
| 100% 100% | |
7. | กลุ่มครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ | 20% | 30% | 20 % | P5 30% | 100% |
8. | กลุ่มศิลปกรรม ดุริยางคศิลป์ และนาฏยศิลป์ วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ ดุริยางคศิลป์และนาฏยศิลป์ | 20% | 30% | 10 % | P6 40% | 100% |
9. | กลุ่มมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ นิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมวิทยา สังคมสงเคราห์ศาสตร์ | |||||
รูปแบบที่ 1 พื้นฐานวิทยาศาสตร์ | 20% | 30% | 40 % | P1 10% | 100% | |
รูปแบบที่ 2 พื้นฐานศิลปศาสตร์ แบบที่ 1 แบบที่ 2 |
|
| 50 % 40% |
| 100% 100% |
สรุป คือ GAT เป็นการสอบที่ไม่ยึดติดกับความรู้ในวิชา แต่เป็นการวัดความสามารถในการเรียนที่ได้รับการฝึกฝนมา แล้วดึงทักษะต่างๆ มาใช้ในการสอบ ส่วน PAT เป็นการสอบที่เน้นความรู้ ความตั้งใจในเรียนในชั้นเรียน การทบทวน ความรู้ที่ใช้สอบจึงเป็นความรู้ที่ได้รับจากการเรียนในห้องเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น