วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โรคอ้วน/1

ถ้าท่านผู้อ่านได้ไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกา และพบเห็นอเมริกันชนแล้ว คงนึกว่าตัวเองมาอยู่ในดินแดนที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะเกือบร้อยละ 60 ของคนเหล่านี้มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ และครึ่งหนึ่งคือ ประมาณร้อยละ 30 เป็นโรคอ้วน ซึ่งอาจมีโรคอื่นซุกซ่อนอยู่หรือเปิดเผยออกมาแล้ว แสดงให้เห็นว่า คนอเมริกันมากกว่าร้อยละ 30 เป็นโรคอื่น ๆ อันเนื่องมาจากโรคอ้วน
ที่ต้องพูดถึงประเทศสหรัฐฯ เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นโรคอ้วนมากที่สุดในโลก แต่ก็หาใช่ว่าประเทศอื่นๆ รวมทั้งประเทศไทยจะไม่มีปัญหานี้ โดยจะสังเกตได้ว่ายิ่งประเทศมีการพัฒนามากขึ้นเท่าไร ปัญหาโรคอ้วนก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น
โรคอ้วนเป็นต้นเหตุของโรคภัยต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคกระดูกและข้อ โรคทางเดินหายใจ และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย โรคอ้วนจึงเป็นมหันตภัยของโลกในยุคปัจจุบันนี้ สำหรับประเทศไทยจากการสำรวจพบว่า ผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 15 เป็นโรคอ้วน ซึ่งมีจำนวนเท่ากับครึ่งหนึ่งของประเทศสหรัฐฯ สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคอ้วน ส่วนใหญ่เกิดจาการใช้วิธีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต
สาเหตุของโรคอ้วนมีดังนี้คือ การอดหลับอดนอนหรือการนอนไม่เป็นเวลา โดยการที่เรานอนไม่ตางเวลาจะทำให้สมองถูกหลอกว่า น้ำตาลที่ไปเลี้ยงสมองน้อย สมองจึงสั่งการมาที่ต่อมหิวให้อยากรับประทานอาหารมากขึ้น การทำงานที่นั่งกับโต๊ะหรือนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ทำให้สมองอ่อนล้าแต่มีการใช้พลังงานน้อย เมื่อสมองเกิดความล้าจึงต้องการรับประทานอาหารมากขึ้น เพื่อชดเชยความอ่อนล้านั้น จึงทำให้เราได้รับพลังงานเกินกว่าความต้องการของร่างกาย
ความเจริญในอุตสาหกรรมอาหาร ก็มีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดโรคอ้วน ร้านอาหารจานด่วน หรือที่ฝรั่งเรียกว่า ฟาสต์ฟู้ด ที่ทำให้ทุกคนสามารถสั่งซื้ออาหารได้อย่างรวดเร็ว การส่งเสริมการซื้ออาหารโดยการสั่งเป็นชุด เช่น มีเฟรนฟายด์พร้อมกับเครื่องดื่มจะประหยัดกว่าสั่งอาหารเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ทุกคนที่สั่งอาหารเป็นชุด ได้รับอาหารที่มีพลังงานแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก จากการวิเคราะห์ของสาขาวิชาโภชนาการ แต่ละชุดจะให้พลังงานประมาณ 1,000 กิโลแคลอรี และเมื่อเพิ่มอีก 10 บาท จะได้เฟรนฟายด์และน้ำอัดลมที่ขนาดใหญ่ขึ้น จึงได้พลังงานเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก 150 กิโลแคลอรี
ความสะดวกในการสั่งซื้ออาหาร ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรารับประทานอาหารมากขึ้น การที่ร้านอาหารจานด่วนต่าง ๆ มีระบบส่งถึงบ้าน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เด็ก ๆ และผู้ใหญ่รับประทานอาหารที่ชื่นชอบมากกว่าปกติ ส่วนประกอบของอาหารเองก็มีส่วนที่ทำให้เป็นโรคอ้วน เช่นกัน โดยอาหารในปัจจุบันส่วนใหญ่ผ่านการทอดน้ำมัน หรือใช้ซีสมาก ของทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร แลถ้าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงด้วยแล้ว คนที่รับประทานบ่อยจึงเป็นโรคอ้วนได้ง่าย
โรคอ้วนเมื่อเป็นแล้วจะรักษาได้ยาก เพราะร่างกายจะมีฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป คือ จะเกิดความหิวมมากกว่าปกติและจะชอบอาหารที่มีไขมันมาก ๆ จึงเกิดเป็น วัฏจักรของความหิว  รับประทานอาหารมัน ๆ  รับประทานพลังงานเกิน  เป็นโรคอ้วน  หิวบ่อย วัฎจักรนี้แก้ไขได้ยากยิ่ง ยกเว้นคนคนนั้นมีจิตใจที่เข้มแข็งมากพอ ที่จะควบคุมความอยากของตนเองก็จะสามารถรักษาโรคอ้วนได้
และปัจจัยสุดท้ายที่ทำให้เกิดโรคอ้วนได้ง่ายก็คือ การขาดการออกกำลังกาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้แต่ละวันเราไม่ค่อยได้ใช้พลังงานสำหรับการทำงานต่าง ๆ เช่น การไปทำงาน คนส่วนใหญ่ก็จะนั่งรถโดยสาร รถไฟฟ้า หรือรถส่วนตัวไปทำงาน แล้วทำงานจนเกือบค่ำเมื่อกลับบ้านก็นั่งรถกลับ ไม่มีเวลาที่จะออกกำลังกาย เมื่อถึงวันหยุดก็มักจะอยู่บ้าน อ่าหนังสือ ดูทีวี หรือเล่นคอมพิวเตอร์ การออกกำลังกายซึ่งควรทำเป็นประจำจึงถูกตัดออกจากชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ กีฬาที่เคยเล่นก็เปลี่ยนเป็นเพียงผู้ดูกีฬาที่ถ่ายทอดทางโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลหรือเทนนิส
โรคอ้วนจึงเป็นมหันตภัยโลกในยุคนี้ที่แพร่กระจายไปทุกประเทศ และมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ไม่สามารถหยุดยั้งการเกิดโรคอ้วนนี้ได้ จึงมีแต่วิธีการรักษาโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคซึ่งปัญหาค่าใช้จ่ายในการรักษา หรือแก้ไขโรคอ้วนก็เป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น