วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

หลักคิดเชิงบวก

ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตกสะเก็ด ประกอบกับอาการที่ดูจะร้อนอบอ้าวขึ้นทุกที ทำให้หลายคนคิดไปต่าง ๆ นา ๆ บ้างก็คิดว่าจะได้ทำงานมั๊ย บ้างก็คิดว่างานจะมั่นคงหรือเปล่า ร้ายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ฯลฯ จากที่กล่าวมา การคิดเชิงบวกนั้นจิตใจจะสังสมองให้ผลิตฮอร์โมนความสุขหลั่งออกมา จะทำให้หัวใจเต้นช้าลง ความดันเลือดช้าลง และภูมิต้านทานสูงขึ้น การคิดเชิงบวกจะช่วยให้ชีวิตมีความหวัง แม้จะพบอุปสรรคที่ใหญ่ขนาดไหนก็ตาม

หลักการคิดเชิงบวก
1.มองตัวเองว่าดี คือ การหาข้อดีของตนเองเพื่อให้เกิดความภูมิใจในตนเอง และสำรวจดูข้อดีข้อเสียของตนเอง เพื่อให้เกิดความยอมรับใจตนเอง เพื่อปรับเปลียนความคิดไปในทิศทางที่ดีขึ้น
2.มองคนอื่นว่าดี คือ เมื่อผ่านข้อแรกแล้ว จะตระหนักว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนย่อมมีข้อบกพร่องแตกต่างกันไป ดังนั้น การมีชีวิตที่มีความสุขจึงหมายถึง การอยู่ร่วมกันโดยเลือกมอง และใช้ประโยชน์จากความดีที่ผู้อื่นมีอยู่ แต่มองเห็นความดีของเขาจริง ๆ
3.มองสิ่งที่เหลืออยู่ไม่่ใช่สิ่งที่ขาดหาย คือ เมื่อเกิดปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ลองมองความทุกข์ หรือ ปัญหานั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เราสามารถพิจารณาได้ว่า วิกฤติที่เราพบนั้น มีข้อดีอะไรแผงอยู่ หรือจะใช้ประโยชน์จากปัญหานั้นได้อย่างไรบ้าง

ข้อดีของการคิดเชิงบวก
1.สมองของคุณจะรู้สึกเบา
2.คิ้วของคุณจะไม่ขมวดเข้ามาใกล้กัน
3.หัวใจของคุณจะเต้นเป็นจังหวะอย่างสมดุล
4.การไหลเวียนของโลหิตจะดีขึ้น
5.กล้ามเนี้อจะไม่เกร็งและจะรู้สึกผ่อนคลายใม่เครียด
6.สายตาคุณจะกว่างไกล
7.แววตาของคุณจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและอ่อนโยน
8.ความสงบสุขจะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณและผู้ที่อยุ่ใกล้ ๆ

ครูเมษ์
อินไซด์บางศรีเมือง
ปีที่2 ฉบับที่ 5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น