วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันบริพัตร

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้ สมเต็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครสวรค์วรพินิต ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2447 ด้วยพระราชดำริว่า "เห็นควรว่าจะให้มีผู้บัญชาการจัดการปกครองกรมให้ลงระเบียบเรียบร้อยราชการทหารเรือจึงดำเนินไปได้ เหนว่าชายบริพัตรมีสติปัญญาและความเพียรมั่งคงอยู่ จึงตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกรมทหารเรือ"

จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 33 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ประสูติเมื่อวันพุธ เดือน 8 ขึ้น 3 ค่ำ ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2424 ในพระบรมมหาราชวัง

พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาตามแบบอย่างของพระราชกุมาร พระราชกุมารี ในสมัยนั้นอย่างครบถ้วน หลังจากพิธีโสกันต์แล้วเมื่อปี พ.ศ.2437 เสด็จไปทรงศึกษาต่อในยุโรป โดยทรงศึกษาที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นได้เสด็จไปทรงศึกษา ณ โรงเรียนนายร้อยที่ปอร์ตสดัม ประเทศเยอรมนี ด้วยความมานะบากบั่น ทำให้พระองค์ทรงจบการศึกษาสอบเป็นนายทหารด้วยคะแนนดีมาก และทรงเข้ารับราชการในกองทัพบกเยอรมณี นับว่าพระองค์ได้สร้างเกียรติประวัติอันดีเด่นของนายทหารไทยไว้กับกองทัพบกเยอรมนีอย่างยากที่จะหาผู้ที่มาเทียบเคียงได้ หลังจากที่พระองค์ลาออกจากตำแหน่งนายทหารกองทัพบงเยอรมนี และเสด็จมาถึงประเทศไทย ทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก จนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2447 ทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ

พระองค์ได้ทรงบุกเบิกและวางรากฐานความเจริญด้านต่าง ๆ ให้แก่กองทัพเรือเป็นอันมาก คุณูปการที่ทรงมีต่อกองทัพเรือที่สำคัญ ๆ อาทิ ทรงจัดระเบียบราชการในกองทัพเรือให้รัดกุม ทรงจัดทำข้อบังคับการทหารเรื่อว่าด้วยหน้าที่ราชการในเรือหลวง ทรงวางรากฐานการจัดระเบียบการเรียนการสอนในโรงเรียนนายเรือใหม่ ทรงขยายและปรับปรุ่งอู่หลวง ทรงวางรากฐานกองดุริยางค์ทหารเรือ ทรงจัดทำโครงสร้างกำลังทหารเรือ ทรงเสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพเรือ โดยทรงสั่งซื้อเรือรบจากต่างประเทศเข้ามาประจำการเป็นจำนวนมาก อาทิ เรือพระที่นั่งมหาจักรี (ลำที่1) เรือพระที่นั่งเวสาตรี เรือพิทยัมรณยุทธ์ ตรงสนับสนุนการก่อตั้งราชนาวิกสภา ทรงกำหนดรูปแบบริ้วกระบวนเรือพระราชพิธี และการสร้างเรือพระราชพิธีใหม่ ทรงวางแบบแผนการยิงสลุต ทรงกำหนดเครื่องแต่งการทหารเรือ ทรงจัดให้มีพระธรรมนูญศาสทหารและกรมพระธรรมนูญทหารเรือ การปรับปรุงการสหโภชน์และก่อตั้งโรงเรียนสูทกรรม ทรงตั้งคลังแสงทหารเรือ ทรงตั้งคลังแสงทหารเรือ ทรงปรับปรุงการแพทย์ทหารเรือ ทรงทำการสำรวจและจัดทำแผนที่น่านน้ำสยามขึ้นใหม่ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น กรมอุทกศาสตร์

จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุทพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2447 สิริพระชนมายุได้ 63 พรรษา แม้ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์มาเป็นเวลา 65 ปีแล้วก็ตาม แต่พระกรณียกิจของพระองค์เป็นคุณประโยชน์แก่กองทัพเรือ จึงได้กำหนดระเบียบปฎิบัติประจำให้มีการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน โดยกำหนดวันประสูติ ซึ่งตรงกับวันที่ 29 มิถุนายน ของทุกปี เป็น"วันบริพัตร" มีงานเพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ณ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม อันเป็นสถานที่ประดิษฐานพระอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน ในงานมีพิธีบวงสรวง พิธีวางพานพุ่มสักการะพระอนุสาวรีย์ พิธีสงฆ์ และยังมีการจัดนิทรรศการพระประวัติ พระกรณียกิจ ที่ทำให้กองทัพเรือมีความเจริยก้าวหน้าจนเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน สมดังที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสชมเชยว่า "น้องชายบริพัตร ที่ได้เล่าเรียนศึกษามาในทางทหารบกโดยแท้ แต่ด้วยความจงรักภักดี ทูลกระหม่อม (รัชการที่5) รับสั่งให้ไปรับราชการทางทหารเรือก็ได้ไปทำการนั้น โดยเกือบจะเรียกว่าต้องฝึกนิสัยเพราะเป็นทหารบก แต่ที่แท้ฝืนได้ดีปานนี้ ทานทั้งหลายคงจะแลเห็นพยานปรากฎชัดเจนอยู่แล้วว่ากิจการทหารเรือได้ดำเนินขึ้นสู่ความเจริญปานใด"

เสียงจากทหารเรือ
กองปฏิตบัติการจิตวิทยา
กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ
106 Magazine
may2009

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น